ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนเสนอการแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยว คมนาคม และการค้าชายแดนในการประชุมร่วมคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนภาคเหนือตอนบน

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 ที่ห้องประชุมวีดีทัศน์ทางไกล video conference ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายชนก นากพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายบำรุง สังข์ขาว หัวหน้าสำนักงานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมวีดีทัศน์ทางไกลร่วมกับคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนภาคเหนือตอนบน ซึ่งมีการประชุมระหว่างคณะกรรมการโครงการวุฒิสภาพบประชาชนกับจังหวัดน่านและจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เสนอภาพรวมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้งด้านการท่องเที่ยว การคมนาคม และการค้าชายแดน โดยปัญหาด้านคมนาคม เนื่องจากปัจจุบันมีเส้นทางคมนาคมทางบกเข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพียง 2 เส้นทาง คือถนนทางหลวงสาย 108 และถนนสายทางหลวง 1095 ส่วนการคมนาคมทางอากาศ ปัจจุบันสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ได้ยกเลิกเส้นทางการบิน เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนเนื่องจากประสบปัญหา โควิด 19 และจนถึงปัจจุบันสายการบินบางกอกแอร์ยังไม่กลับมาเปิดการบิน
ทั้งนี้แนวทางการแก้ไขปัญหาทางจังหวัดได้มีการประสานความร่วมมือไปยัง สายการบินนกแอร์ ในการเปิดเส้นทางการบินดอนเมืองถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ทั้งนี้ทางจังหวัดได้มีการหารือกับสายการบินนกแอร์ ในการขยายเส้นทางการบินระหว่างจังหวัดเชียงใหม่ถึงแม่ฮ่องสอนซึ่งเบื้องต้นสายการบินนกแอร์ อยู่ในระหว่างการขออนุญาตจากกรมการบินพาณิชย์ ในการเปิดเส้นทางการบินดังกล่าว ขณะเดียวกันสายการบินนกแอร์ จะเพิ่มเที่ยวบิน ดอนเมือง-แม่ฮ่องสอน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563จากเดิม 3 วันต่อสัปดาห์เป็น 7 วัน เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ส่วนเส้นทางการคมนาคมทางบกจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยแขวงการทาง จะมีการปรับปรุงถนนทางหลวงสาย 1095 และ 108 จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยจะมีการการปรับปรุงจุดเสี่ยงต่างๆโดยตั้งงบประมาณจำนวน 142 ล้านบาท ในการปรับปรุงเส้นทางทั้ง 2 เส้นทางเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ขอให้ทางคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ได้มีการผลักดันการเปิดจุดการค้าชายแดนไทยพม่า ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะเปิดจุดผ่านแดนถาวรที่ช่องทางห้วยต้นนุ่น หรือ BP 13 อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากเดิมเป็นจุดผ่อนปรนการค้าชายแดน ญฏณธโฐเป็นจุดผ่านแดนถาวร โดยเบื้องต้นทางจังหวัดได้มีการจัดทำฌศฯฮผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการนำเสนอผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมทั้งเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในการเดินทางเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2561 ทั้งนี้การยกระดับการเปิดด่านถาวร นี้ยังติดปัญหาที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่จะต้องมีการนำไปหารือในคณะกรรมการปักปันเขตแดนไทย พม่า ต่อไป ขณะเดียวกันจังหวัดแม่ฮ่องสอนสรุปข้อมูลให้คณะกรรมการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ถึงแนวทางการผ่อนปรนการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดน 5 ช่องทาง ให้กับผู้ประกอบการของไทย เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อน หลังจากที่จังหวัดมีการปิดจุดผ่อนปรนทั้ง 5 ช่องทาง เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิต ทั้งนี้ทางจังหวัดจะมีการกำหนดมาตรการผ่อนปรนต่อไปโดยเบื้องต้นทางจังหวัดได้มีการจัดตั้งคณะทำงานในการออกไปดูการเตรียมความพร้อมในแต่ละช่องทางรวมทั้งรวบรวมรายงานปัญหาเพื่อกำหนดเงื่อนไขในการที่จะมีการส่งสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านซึ่งปัจจุบันยังพบว่ามีโคกระบือจำนวน 1007 ตัวและสินแร่ดีบุกจำนวน 60 ตันที่ยังค้างอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้คณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน มีกำหนดการที่จะเดินทางมาจังหวัดแม่ฮ่องสอนในระหว่างวันที่4-6 กุมภาพันธ์ 2564

ร่วมแสดงความคิดเห็น