เมื่อวันที่ วันที่ 11 พ.ย. 63 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้สั่งการให้แต่ละผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ละแห่งดำเนินการติดตามสภาพอากาศ ซึ่งประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูหนาว โดยคาดการณ์ว่าในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวม 52 จังหวัดจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณยอดดอย ยอดภู และเทือกเขาจะมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง
ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มีการสั่งการไปยังศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอดำเนินการให้เตรียมความพร้อมรับมือภัยหนาวด้วยการ
- ดำเนินการจัดตั้งคณะทำงานติดตามสถานการณ์ภายใต้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ ในการสำรวจพื้นที่เสี่ยงที่มีโอกาสเกิดอาการหนาวหรือหนาวจัด การแจ้งเตือนและเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอากาศหนาว
- ประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อซักซ้อมแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย การจัดเตรียมเครื่องกันหนาว
- การปรับปรุงแผนเผชิญเหตุของอำเภอ โดยเฉพาะการสำรวจปรับปรุงข้อมูลบัญชีผู้ประสบภัยหนาวกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กไร้ผู้อุปการะ คนพิการ ทุพพลภาพ สตรีมีครรภ์ และผู้มีรายได้น้อยให้เป็นปัจจุบัน และปรับปรุงข้อมูลวัสดุอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
- สร้างการรับรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพช่วงฤดูหนาวพร้อมประสานหน่วยงานด้านสาธารณสุขเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมป้องกันโรคติดต่อในช่วงฤดูหนาว และรณรงค์ขอความร่วมมือเกษตรกรใช้วิธีการไถกลบแทนการเผาตอซังและวัสดุทางการเกษตรเพื่อลดมลพิษในอากาศและปัญหาหมอกควัน
- กำหนดมาตรการในการป้องกันการเกิดอัคคีภัยและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศหนาวเย็น เช่น ทัศนวิสัยจากหมอกหนา เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการจราจร และอัคคีภัยในเต็นท์ที่พักของนักท่องเที่ยว เป็นต้น โดยจัดเจ้าหน้าที่ รถยนต์ดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ และอุปกรณ์ดับเพลิงให้มีความพร้อมปฏิบัติงานได้ทันที
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ ฯ ทันทีเมื่อเกิดภัย พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งหน่วยทหาร ภาคราชการ ภาคเอกชน องค์กรการกุศล มูลนิธิ และประชาชนจิตอาสา แบ่งพื้นที่รับผิดชอบเพื่อบูรณาการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวไม่ซ้ำซ้อนกัน และเป็นไปอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ขอให้จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปฏิบัติตามระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวอย่างเคร่งครัด
นอกจากนั้นแล้ว มาตรการเร่งด่วนของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เบื้องต้น ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดตั้งคณะทำงานปฎิบัติการแก้ไขปัญหาภัยหนาว หรือ war room ภัยหนาวโดยมีรองผู้ว่าการจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นหัวหน้าคณะทำงานเพื่อประสานงานหน่วยงานองค์กรในระดับจังหวัด เพื่อลงไปสนับสนุนช่วยเหลือหน่วยงานในระดับพื้นที่ อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ในการแก้ไข และบรรเทาปัญหาต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น