กรมทหารพรานที่ 36 อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จัดกำลังออกลาดตระเวนและ วางแนวลวดหนามหีบเพลง สกัดการลักลอบเข้าเมือง หลังพบ ผู้ติดเชื้อโรคโควิดในพม่าทะลุ 8 หมื่นกว่าราย

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 พันเอก สมรรถชัย แปงสาย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 36                สั่งการให้กองร้อยหน่วยขึ้นตรงที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน จัดกำลังลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ของแรงงานต่างด้าว ทั้งป้องปรามการค้ายาเสพติด ตัดไม้                    และอาวุธสงคราม โดยสั่งการให้ ร้อยตรี ผนุวัฒน์ เตชะปัญญาวุฒิ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 3607 จัดกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการ จากฐานปฏิบัติการสันเขตบ้านเสาหิน พร้อมกำลังพล ทำการเฝ้าตรวจเส้นทางธรรมชาติ ช่องทาง และ   จุดเสี่ยงต่าง ๆที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางในการเดินเท้าเข้ามาของแรงงานต่างด้าว บริเวณบ้านเสาหิน ตำบลเสาหิน        อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และสั่งการให้ ร้อยตรี ประทีป เมืองชุม ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 3604      จัดกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการ จากฐานปฏิบัติการออเลาะ ทำการลาดตระเวนซุ่มเฝ้าตรวจในภูมิประเทศ และริมฝั่งแม่น้ำสาละวินเขตชายแดนไทย บริเวณ บ้านออเลาะ ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผลการปฏิบัติ      ทั้งสองพื้นที่เหตุการณ์ปกติ ไม่พบการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว หรือการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด -19 ทั่วโลกวันนี้ แนวโน้มผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สำหรับประเทศที่มีพรมแดน           ติดกับประเทศไทย เช่น มาเลเซีย เมียนมา ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นวันนี้กว่า 1,000 ราย ซึ่งทางด้านกระทรวงสาธารณสุข และกีฬาเมียนมา เผยยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศ ประจำวันที่ 22 พ.ย. 63 มีผู้ติดเชื้อ  รวม 79,246 ติดเชื้อวันเดียว 1,398 และมีผู้เสียชีวิตรวม 1,739 ติดเชื้อวันเดียว 17 ราย สถานการณ์ยังคงวิกฤติต่อเนื่อง

ดังนั้นประชาชนคนไทยจึงไม่ควรประมาท การ์ดอย่าตก ยังคงต้องเข้มมาตรการป้องกันตนเอง ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก และลงทะเบียนแพลตฟอร์มไทยชนะ เมื่อเข้าใช้สถานที่ต่าง ๆ ทั้งนี้ ประเทศไทยมีโอกาสที่จะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศได้ ขอประชาชน  ไม่ต้องตระหนก และมั่นใจในมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีความพร้อมทั้งบุคลากร ห้องปฏิบัติการ              และระบบรักษาที่มีประสิทธิภาพ มีทีมสอบสวนโรคที่ทำงานร่วมกับ อสม. ในพื้นที่ ค้นหาเชิงรุก ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ หากพบผู้ติดเชื้อก็จะนำเข้าสู่ระบบการรักษาทันที ทำให้จำกัดวงของการแพร่ระบาด  ได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันการแพร่เชื้อเป็นวงกว้างในชุมชน

ทศพล / แม่ฮ่องสอน

ร่วมแสดงความคิดเห็น