ผู้แทนพระองค์เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมในโครงการพระราชทาน โคก หนอง นา

เวลา 09.30 น. วันที่ 24 พ.ย. 63 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายภาษเดชยย หงส์ลดารมภ์ รอง ผวจ.เชียงราย เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมในโครงการพระราชทาน “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” ที่เรือนจำอำเภอเทิง ต.เวียง อ.เทิง จ.เชียงราย มีนายกิตติพงษ์ สาหร่าย ผบ.เรือนจำอำเภอเทิง นำบุคลาการประจำเรือนจำ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงห่วงใยในความเป็นอยู่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทุกหมู่เหล่า รวมทั้งผู้ต้องขัง ซึ่งเมื่อพ้นโทษไปแล้วให้สามารถดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพสุจริตพึ่งพาตนเองได้ จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีการฝึกอบรมโครงการพระราชทาน “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา เพื่อสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก โดยสามารถดำเนินการได้ทุกเงื่อนไขของพื้นที่ และมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นฐานความคิด การฝึกวินัย การลงมือปฏิบัติ ตลอดจนการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งพาตนเอง และช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนได้ เมื่อพ้นโทษออกไปสู่โลกภายนอก

ที่เรือนจำอำเภอเทิง มีผู้ต้องขังที่เป็นคนไทยและผ่านการอบรมทั้งสิ้น 100 คน โดยปฏิบัติการฝึกอบรมเป็นเวลา 14 วัน ในระหว่างวันที่ 10–23 พ.ย. 63 โดยแบ่งการฝึกเป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การอบรมพึ่งตนเองด้วยทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ขั้นตอนที่ 2 การเปลี่ยนแปลงทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ ประกอบด้วย การออกแบบแนวคิดการบริหารจัดการพื้นที่ขนาดเล็กการประยุกต์ทฤษฎีใหม่ แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ตามภูมิสังคมลงบนกระดาษ การสร้างพื้นที่จำลอง (Table Top Exercise) และวางแผนการปลูกป่า 3 อย่างได้ประโยชน์ 4 อย่าง เพื่อพออยู่ พอกิน พอใช้ และพอร่มเย็น การปฏิบัติในพื้นที่จริงมีขนาด 250 ตร.ม. ตามทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ตามภูมิสังคม ขั้นตอนที่ การสรุปและประเมินผล

จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ผู้เข้ารับการฝึกทุกราย สามารถพึ่งพาตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ ทั้งสามารถช่วยเหลือประชาชนในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมได้ หลังจากนี้แล้ว ผู้ต้องขังที่จะได้รับการพ้นโทษในโอกาสต่อไปจะต้องไปดำเนินการในพื้นที่ตามภูมิลำเนาของตนเอง อันเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจไปสู่ประชาชน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเป็นกำลังสำคัญช่วยกันพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น