ผู้ว่าฯลำพูนนำทีมแถลงข่าวเชิญชวนประชาชนใช้สิทธิการเลือกตั้ง ส.อบจ.-นายก อบจ.

นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย พลตำรวจตรี นฤชิต เนียวกุล ผู้บังคับการตำรวจฎธรจังหวัดลำพูน ฐานะประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารสวนจังหวัดลำพูน , นายเสริมชัย ลี้เขียววงศ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน และ นายนพดล สุยะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน ร่วมแถลงข่าวการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน และ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน โดยกำหนดจัดการเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ระหว่างเวลา 08:00 ถึง 17:00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมจามเทวี ศาลากลางจังหวัดลำพูน ถนนอินทยงยศ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา

 

เริ่มต้นที่นายวรยุทธฯ ประธานการแถลงข่าวฯ ได้กล่าวถึงความเป็นมาของการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน(ส.อบจ.ลำพูน) และ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน(นายก อบจ.ลำพูน) รวมถึงภาพรวมทั่วไปของการจัดการเลือกตั้ง พร้อมกล่าวเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้ง

จังหวัดลำพูนเป็นจังหวัดที่มีประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ออกมาใช้สิทธิ์เป็นจำนวนมากที่สุดของประเทศไทยถึง 13 ครั้ง นับตั้งแต่การจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร( ส.ส.)เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 ถึง การจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งล่าสุด เมื่อ วันที่ 6 มีนาคม 2562 การเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่มีการเปิดให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ไม่มีการลงคะแนนนอกราชอาณาจักร จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมเพื่อออกมาใช้สิทธิ์โดยพร้อมเพรียงกัน..

 

 

ถัดมาคือ พลตำรวจตรี นฤชิตฯ กล่าวถึง ประเด็นความพร้อมการจัดการเลือกตั้ง บุคลากรจัดการเลือกตั้ง การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จังหวัดลำพูน มีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน 325,989 คน มีเขตเลือกตั้ง ส.อบจ. จำนวน 24 เขตเลือกตั้ง มีจำนวนเขตเลือกตั้งนายก อบจ. 1 เขตเลือกตั้ง มีหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 702 หน่วย แต่ละหน่วยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย จำนวน 12 คน ประกอบด้วย กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง(กปน.) 9 คน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คน และ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. 1 คน ทั้งหมดจะมีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยปฏิบัติงานในวันเลือกตั้ง จำนวน 8,424 คน ได้มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งและการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง จึงเชื่อมั่นว่าจะได้รับความร่วมมือจากผู้สมัครและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด..

 

 

นายเสริมชัยฯ กล่าวถึง ประเด็นการรับสมัคร ผู้มีสิทธิรับเลือกตั้ง , การกำหนดหน่วยเลือกตั้ง , การแต่งตั้งคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง , การดำเนินการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง เนื่องจากกำลังเป็นช่วงเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 จึงได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และคัดกรองวัดไข้ก่อนเข้าไปทำการลงคะแนนเลือกตั้ง หากพบว่าประชาชนที่มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมีไข้สูงกว่า 37.5 องศาฯ จะได้เข้าไปทำการใช้สิทธิ์ในคูหาเฉพาะที่ได้จัดเตรียมไว้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว

 

และ นายนพดลฯ กล่าวถึง ประเด็นการจัดการเลือกตั้ง ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 ร่วมถึง วิธีการและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง รวมทั้งได้ประชาสัมพันธ์คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ว่า ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 เวลา 08:00 ถึง 17. 00 นาฬิกา ณ หน่วยเลือกตั้งที่มีอยู่ชื่อ ประชาชนจะสามารถใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งได้ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
1. มีสัญชาติไทย แต่ถ้าแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
2. อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ในวันเลือกตั้ง
3. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง
4. คุณสมบัติอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด..

 

การแถลงข่าวฯครั้งนี้ ได้มีนายชาตรี กิตติธนดิตถ์ ปลัดจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ , ข้าราชการ/เจ้าหน้าที่ในส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟัง สำหรับประเด็นข้อซักถามที่สื่อมวลชนให้ความสนใจและห่วงใยมากที่สุดคือ การใช้สื่อออนไลน์ทาง Facebook , Line เพื่อการประชาสัมพันธ์หาเสียงเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งฯสามารถทำการหาเสียงผ่านสื่อออนไลน์ได้ แต่ต้องแจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ทราบก่อน และจะต้องดำเนินการตามข้อกำหนด ระเบียบ อย่างเคร่งครัด ประชาชน หรือ สื่อมวลชน สามารถกระทำการโพสข้อความทางสื่อออนไลน์เพื่อสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ แต่ต้องแจ้งกับผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งฯแจ้ง กกต.ให้ทราบก่อน

ร่วมแสดงความคิดเห็น