รมว.ทส. ชวนคนไทยช่วยลดฝุ่น PM2.5 ช่วยกันแก้ แค่ไม่เผา

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า การเตรียมการป้องกันปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพอนามัยของประชาชน จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เน้น 3 มาตรการหลัก คือ การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ในการบริหารสั่งการ การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง การเข้มงวดตรวจมลพิษรถยนต์ การลดแหล่งเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่า พื้นที่เกษตร และเร่งการสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน โดยมีศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ หรือ ศกพ. เฝ้าระวังสถานการณ์คุณภาพอากาศเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน สามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่นผ่านแอพพลิเคชัน Air4Thai เฟซบุ๊คของกระทรวง ทส. และแฟนเพจของ ศกพ.

นายวราวุธ กล่าวว่า แหล่งกำเนิดฝุ่นละอองของแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน หากเป็นพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑล ก็มาจากรถยนต์เป็นหลัก หากเป็นพื้นที่ภาคเหนือเกิดจากในที่โล่ง เผาป่า การเผาพื้นที่เกษตรกรรม เผาวัสดุทางการเกษตร ทั้งตอซังข้าว ซังข้าวโพด ชานอ้อย เมื่อไม่ใช้พี่น้องเกษตรกรก็เผา แต่วันนี้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการโดยการเก็บขน หรือที่เรียกว่า “ชิงเก็บ” ให้พี่น้องประชาชนนำเศษวัสดุ ใบไม้ที่แห้งออกจากเขตพื้นป่าเสียก่อน และนำมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ มาแปรสภาพให้เป็นสิ่งของเครื่องใช้ เป็นภาชนะ นำมาเป็นเชื้อเพลิง RDF ในปีนี้มีภาคเอกชนรับซื้อเศษวัสดุเชื้อเพลิงถึง 400 ตัน ประชาชนก็จะได้เงินเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องเผา ที่สำคัญการสร้างเครือข่ายจิตอาสา หัวใจสำคัญคือพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ จะเป็นคนรู้ดีที่สุดว่ากลุ่มไหนเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเผา ทั้งนี้จะมีการเร่งรัดเรื่องโอนถ่ายภารกิจด้านการดับไฟป่า ซึ่งถูกโอนไปที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งแต่ปี 2545 เพื่อเขาจะได้ตั้งงบประมาณในการจัดการได้อย่างเต็มที่ และการพยากรณ์อากาศก็เป็นสิ่งสำคัญที่นำไปสู่การบริหารวางแผนการเผาให้สอดคล้องกับสภาพอุตุนิยมวิทยา

ที่สำคัญที่จะขาดไม่ได้คือ การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ดังนั้นต้องขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชน ที่จะควบคุมดูแล ตรวจเช็คตรวจสอบแหล่งกำเนิดในกำกับ รวมถึงการบำรุงรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหากร่วมมือร่วมใจกันแล้วเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้สถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองในบ้านเราลดลงได้แน่นอน อย่าลืมนะครับ “ลดฝุ่นควัน ช่วยกันแก้ แค่ไม่เผา” นายวราวุธ กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น