ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน สั่งเพิ่มมาตรการคุมเข้มป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 พร้อมลงพื้นที่ตรวจเส้นทางตามแนวชายแดน

วันที่ 4 ธันวาคม 2563 ที่อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ประชุมนายอำเภอ สาธารณสุข ทหารพราน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของศูนย์อำนวยการและประสานงานป้องกัน covid-19 อำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ในพื้นที่อำเภอสบเมย เพื่อติดตามและวางแนวทางการป้องกันการลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรตามแนวชายแดนไทย-พม่า ด้านอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในพื้นที่ได้มีการเข้มงวดในการป้องกันการลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งให้มีการจัดเตรียมรถขนส่งผู้ป่วย และสถานที่กักการผู้ติดเชื่อหรือผู้ต้องสงสัย โดยปัจจุบันศูนย์อำนวยการและประสานงานป้องกัน covid-19 อำเภอสบเมย ได้มีการสุ่มตรวจหาเชื้อภูมิคุ้มกัน covid-19 จากการสุ่มตรวจผู้สัญจรเข้าออกเขตอำเภอสบเมย ผ่านจุดตรวจแม่สวด เป็นคนไทย 8110 คน ต่างชาติถูกกฎหมาย 7 คน และต่างชาติผิดกฎหมาย 12 คน โดยทุกรายไม่พบอาการติดเชื้อเป็นโรค covid-19 นอกจากนั้นยังมีการสุ่มตรวจคนไทย 12 คน ต่างชาติที่เข้าเมืองโดยถูกหมายกฎหมาย 8 คนและต่างชาติผิดกฏหมายตามแนวชายแดนอีก 10 คน ซึ่งทุกรายไม่พบการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือโรค covid-19 นอกจากนั้นลัวผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังได้ลงไปตรวจและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานตามจุดตรวจและจุดสกัด เพื่อมอบนโยบายในการดำเนินงานการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื่อไวรัสโคโลน่า 2019 อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ขณะนี้ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 ได้มีการพิจารณากรณีพบชาวไทยที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านและติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ได้เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ประชาชนเดินทางไปร่วมกิจกรรมในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลขึ้นปีใหม่ 2564 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

เบื้องต้นจังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการเข้าตรวจการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่ตลอดตามแนวชายแดนทั้ง 7 อำเภอ พร้อมทั้งกำกับดูแลกิจการ หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น โรงเรียน ร้านอาหาร สถานประกอบการ สถานบันเทิง สนามกีฬา สถานที่ท่องเที่ยวให้มีความเข้มงวดในมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 ทั้งนี้ได้กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เฝ้าระวังและกำกับดูแลบุคคลที่กลับเข้ามาในพื้นที่ชุมชน เพื่อซักถามและให้คำแนะนำมาตรการป้องกันโรค covid-19
ส่วนปัญหาผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบตามแนวชายแดน ที่เข้ามาพักพิงในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มอบหมายให้ นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในการประชุม เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา(COVID-19) ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาและการจัดทำทะเบียนผู้หนีภัยสู้รบจากเมียนมา โดยผ่านระบบ ZOOM ของกรมการปกครอง ในการป้องกันและควบคุมผู้หนีภัยการสู้รบจากที่อยู่ในพื้นที่พักพิงอีกด้วย

นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังได้ย้ำเตือนให้มีการสร้างความรู้ความเข้าใจในการขอความร่วมมือกับภาคประชาชนและภาคประชาสังคม ผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการ ผู้จัดกิจกรรม และผู้ร่วมกิจกรรม ในพื้นที่สาธารณะและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งด้านการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การทำความสะอาดพื้นผิวและอุปกรณ์ที่มีการสัมผัสบ่อย การจัดระยะห่างหรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคคลอื่น การใช้แพลตฟอร์มไทยชนะในการเข้าออกสถานที่สาธารณะ โดยการสร้างการรับรู้ความเข้าใจและขอความร่วมมือเพื่อให้เกิดความตระหนักรู้ และเฝ้าระวังเพิ่มขึ้น และขอให้เกิดความตระหนักในมาตรการการดำเนินการดังกล่าวตามการขอความร่วมมือจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ร่วมแสดงความคิดเห็น