(มีคลิป) “นายกสมคิด” ทต.หนองป่าครั่ง มอบเกียรติบัตรบุคคลต้นแบบ “เปลี่ยนแล้ว ปิ๊ง” จำนวน 31ราย ในงานวันรวมพลคนรักษ์สุขภาพ

วันที่ 5 ธันวาคม 2563 เวลา 09.30 น. ที่ลานอเนกประสงค์ ด้านหลังอาคารโรงพยาบาลเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ นายสมคิด เลิศเกียรติดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองป่าครั่ง เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันรวมพลคนรักษ์สุขภาพ “หนองป่าครั่งรอบรู้สุขภาพ ห่างไกล โรคหลอดเลือดสมอง” ได้พิธีมอบเกียรติบัตรบุคคลต้นแบบ “เปลี่ยนแล้ว ปิ๊ง” ซึ่งมีบุคคลต้นแบบในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ จำนวน 15 ราย

โดยมีผู้เข้ารับเกียรติบัตร คือ นางวรรณา เลิศเกียรติดำรงค์ ผู้นำองค์กรบริษัทเลิศวศิน 2002 จำกัดประธานกลุ่มผู้บริโภคฉลาดเลือกตำบลหนองป่าครั่งและส่งเสริมการออกกำลังกายส่งเสริมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ, นางสาวรดารัตน์ ลิ้มเจริญกุลเดช เจ้าของ OTOP 5 ดาว ร้านฝ้ายละอ่อนชุดพื้นเมืองเด็ก อายุ 54 ปี 2 ปี ที่หมั่นดูแลตัวเองจนน้ำหนักลด 20 กิโลกรัม ด้วยความภาคภูมิใจเกินร้อย, นางรสริน ฝั้นพรหม นักธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม อายุ 55 ปี “มีความรู้มากมายแต่รู้อะไรไม่เท่าเราลงมือทำเอง”, นางอำพันธ์ อินชัยอดีตนักกีฬาวิ่ง 100 เมตร ของโรงเรียน อายุ 55 ปี เคยเจ็บป่วยและหายขาดด้วยโยคะ “สุขทั้งกายสุขทั้งใจ”, นางสมจิต วงศ์น้อย เจ้าของน้ำเสาวรสเพื่อสุขภาพ สารวัตรกำนันและอสม.หมู่ที่ 1 อายุ 55 ปี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดหวาน รดเค็ม ทานกับข้าวเมือง เท่านี้ก็ฟิตแอนด์เฟิร์มได้, นางพิชชาภา นัยนานนท์ อายุ 56 ปีเคยป่วยเป็นภูมิแพ้เรื้อรังแต่หายได้ด้วยการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง,

นางแจ่มศรี จันทร์แจ่มกระจ่าง อดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลของโรงเรียน เจ้าของร้านขนมไทยโบราณ เป็นแกนนำเต้นแอโรบิค รำวงย้อนยุค และร่วมวงเต้นเต้าเต๋อ ตอนเช้า อายุ 57 ปี, นางบัวชร ปั๋นฝั้น ประธานแม่บ้านและรองประธานอสม.หมู่ที่ 4 อายุ 58 ปี เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ชีวิตมีแต่ความสดชื่นแจ่มใสทุกวัน, นางสาวจินตนาถ ปั่นไหว สมาชิกสภาเทศบาล ประธานอสม. ประธานสตรีแม่บ้านหมู่ที่ 6 อายุ 58 ปี “ไม่มีเวลาเป็นแค่อดีตจัดสรรชีวิตเป็นเรื่องของปัจจุบัน”, นางสาวพวงเพชร อุปธรรม อาชีพค้าขายประธานอสม.หมู่ที่ 1 อายุ 58 ปี ออกกำลังกายด้วยโยคะและรำวงย้อนยุค “แค่ปรับความคิดชีวิตก็เปลี่ยนสุขภาพดีขึ้นอารมณ์ดีขึ้น”, นางสายทอง ไชยธรรม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและอสม.หมู่ที่ 6 อายุ 59 ปี ช่วยเหลืองานชุมชนยังไม่ขาดแต่ยังสามารถแบ่งเวลาดูแลตัวเอง,

นางอรวรรณ ธรรมโม คุณแม่ผู้ทรงอิทธิพลของบ้านอายุ 61 ปี “หกสิบยังแจ๋ว” จัดการมะเร็งร้ายด้วยเทคนิค 3 อ. “อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์” ขอแค่ลงมือทำ, นางพิชธนาพร ปัญญา อดีตนักธุรกิจ เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง อายุ 62 ปี ชื่นชอบการออกกำลังกายด้วยโยคะและฟิตเนส “ดูแลตัวเองตั้งแต่สาวๆไม่เค็ม ไม่หวาน ชีวิตมีกำไร”, นางสมพร ธำรงค์ทิพยคุณ อดีตพยาบาลที่ยังคงใช้ความรู้ด้านสุขภาพดูแลทุกคนในครอบครัวและยังเผยแผ่สู่ชุมชนด้วย อายุ 69 ปี “เปลี่ยนแล้วปิ๊ง” ปรับชีวิตให้สดใส ใช้ชีวิตง่ายขึ้น และนางพรรณี ยืนบุญ อายุ 70 ปี ชอบออกกำลังกาย เดิน ปั่นจักรยาน ลำไทชีจี้กง ปรับอาหาร ลดหวาน มัน เค็ม ได้แลกเปลี่ยนแนวความคิดการออกกำลังกายกับเพื่อนอย่างมีความสุขเรียนรู้เพิ่มเติมส่งเสริมสุขภาพพร้อมส่งต่อให้คนอื่น

สำหรับบุคคลต้นแบบในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่สามารถควบคุมน้ำตาลและความดันได้ดีจำนวน 16 ราย จะได้แก่นายยุทธนา มังกะละ เป็นความดันโลหิตสูงและเบาหวาน 8 ปี ออกกำลังกายด้วยการวิ่งทุกเย็น น้ำหนักลดลงจาก 90 กิโลกรัมเหลือ 75 กิโลกรัมใช้ระยะเวลา 3 ปี น้ำตาลกลูโคสลดลงจาก 160 mg /dl เหลือ 121 mg/dl ปัจจุบันความดันโลหิตปกติ, นายสันติสุขเนตรสมบูรณ์เป็นเบาหวาน 7 ปี น้ำหนักลดลงจาก 79 กิโลกรัมเหลือ 77 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 8.8 % – 6.6 %, นางสาวแสงอรุณ ดวงดี เป็นเบาหวาน 9 ปี น้ำหนักลดลงจาก 50 กิโลกรัมเหลือ 48 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 5.1 % – 6.6 %, นางอัมพร สุวรรณโชติ เป็นเบาหวานมา 7 ปี น้ำหนักลดลงจาก 60 กิโลกรัมเหลือ 55 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 9.3 % – 7.2 %,

นายอุทิศ สัตยาภูมิ เป็นเบาหวานมา 7 ปี น้ำหนักลดลงจาก 52 กิโลกรัมเหลือ 48 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 4.7 % – 5.6 %, นางเพ็ญศรี สมบัตินา เป็นเบาหวานมา 6 ปี น้ำหนักลดลงจาก 52 กิโลกรัมเหลือ 45 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 12.9 % – 6.6 %, นายทนงศักดิ์ คำชัยวงศ์ เป็นเมื่อวานมา 2 ปี น้ำหนักลดลงจาก 82 กิโลกรัมเหลือ 78 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 8.7 % – 6.6 %, นางวิไล ไชยาเป็นเบาหวานมา 1 ปี น้ำหนักลดลงจาก 58 กิโลกรัมเหลือ 55 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 7.7 % – 6.4 %, นางวรรณภา ปารมีธง เป็นเบาหวาน 1 ปี น้ำหนักลดลงจาก 57 กิโลกรัมเหลือ 53 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 10.4 % – 7.1 %, นางสาวชัญญา แซ่เฮ้ง เป็นเบาหวานมา 10 เดือน น้ำหนักลดลงจาก 57 กิโลกรัมเหลือ 56 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 7.3 % น้ำตาลกลูโคส 125 mg/dl,

นายบุญส่ง บุญทาเป็นเบาหวานมา 5 เดือน น้ำหนักลดลงจาก 61 กิโลกรัมเหลือ 60 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 10.8 % – 6.5 %, นางเพลินพิศ ทวิลเด เป็นเบาหวานมา 5 เดือน ควบคุมอาหารออกกําลังกายเพิ่มขึ้น น้ำหนักลดลงจาก 76 กิโลกรัมเหลือ 69 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 11.5 % – 5.9 %, นางปวริศา นามแก้ว เป็นเบาหวานมา 8 ปี น้ำหนักลดลงจาก 45 กิโลกรัมเหลือ 41 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 7.9 % – 7.3 %, นายชัยยุทธ ศิริชัย เป็นเบาหวานมา 7 ปี น้ำหนักลดลงจาก 70 กิโลกรัมเหลือ 66 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 8.6 % – 6.9 %, นางทิพยา วินิชริริยะ เป็นเบาหวานมา 9 ปี น้ำหนักลดลงจาก 757 กิโลกรัมเหลือ 54 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 8.3 % – 6.8 % และ นางสมพิศ หินศรีสุวรรณ เป็นเบาหวานมา 1 ปี น้ำหนักลดลงจาก 68 กิโลกรัมเหลือ 60 กิโลกรัม น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอด 8.6 % – 6.9 %

ซึ่งโครงการยกระดับความรอบรู้ทางสุขภาพสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ โดย คณะพยาบาลศาสตร์ มช.และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ร่วมกับเทศบาลหนองป่าครั่ง ถือเป็นเทศบาลตำบลที่ได้นำร่องในเรื่องของการยกระดับพัฒนาและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบุคล และนำความรอบรู้ด้านสุขภาพมาใช้ เป็นมาตรการในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนต่อไปในอนาคต

ร่วมแสดงความคิดเห็น