วันนี้( 10 ธ.ค.63) สำนักข่าวรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกิ้นส์ รายงานว่า สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตรายวันอย่างน้อย 3,112 คนเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ทำลายสถิติตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดของวันที่ 3 ธันวาคมที่มี 2,861 คน และเป็นครั้งแรกที่สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตรายวันสูงกว่า 3,000 คน เพราะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 2,259 คนต่อวัน อีกทั้งยังเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันที่สูงที่สุดในโลก
ขณะเดียวกันสหรัฐยังมีผู้ป่วยติดเชื้อเฉลี่ย 205,661 คนต่อวัน เป็นตัวเลขที่ทางการสาธารณสุขสหรัฐคาดว่า มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก่อนที่จะมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างแพร่หลายในประชาชนทั่วไป โดยจนถึงขณะนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 15.5 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 289,000 คน
ขณะที่ นพ. มงเซฟ สลาวี หัวหน้าที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของโครงการโอเปอเรชั่น วาร์ป สปีด (Operation Warp Speed) ซึ่งเป็นโครงการฉีดวัคซีนของรัฐบาลสหรัฐกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า เอฟดีเออาจอนุมัติการใช้วัคซีนได้เร็วสุดในวันศุกร์หรือเสาร์นี้ และอาจเริ่มฉีดวัคซีนให้ชาวอเมริกันคนแรกได้ในวันอาทิตย์หรือวันจันทร์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผู้ที่ทำงานและอาศัยอยู่ตามศูนย์พักฟื้นและดูแลคนชราเป็นคนกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีน ซึ่งต้องทำการฉีด 2 ครั้ง มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดโควิด-19 อย่างน้อยเป็นเวลา 7 วัน หลังได้รับการฉีดเข็มที่ 2 แล้ว
อย่างไรก็ตาม เอฟดีเอ ยอมรับว่า ในเวลานี้ยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะยืนยันความปลอดภัยสำหรับการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี สตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ข้อมูล : www.TNNTHAILAND.com
ร่วมแสดงความคิดเห็น