“ เมย์ ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์ ” คว้ามงกุฎนางสาวไทย ประจำปี 2563 เป็นนางสาวไทย คนที่ 52

ปิดฉากลงอย่างสวยงาม เมื่อผู้เข้าประกวดหมายเลข MT13 ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์ หรือ เมย์ อายุ 27 ปี จบการศึกษาจากคณะวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี สาวงามจากจังหวัดนครปฐม คว้าตำแหน่ง นางสาวไทย ประจำปี 2563 เป็นนางสาวไทย คนที่ 52 ปฏิบัติหน้าที่ทูตวัฒนธรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่มีการจัดประกวดนางสาวไทย รอบตัดสิน ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่

ก้าวสู่ปีที่ 87 สำหรับเวทีแห่งตำนาน เก่าแก่ และยาวนานที่สุดในประเทศไทย เริ่มขึ้นเมื่อ 2 พิธีกร                “อรรณพ กิตติคุณ” และ ” อาลิซาเบธ แซ๊ดเลอร์ ลีนานุไชย ” รับหน้าที่พิธีกรบนเวทีนางสาวไทยประจำปี 2563 สำหรับการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2563 รอบตัดสิน เริ่มด้วย Grand Opening show เปิดตัวสาวงามทั้ง 30 คนในชุดค็อกเทลจากแบรนด์ PEEYA พร้อมแนะนำตัวจนครบ 30 คน จากนั้นเข้าสู่ความระทึกใจด้วยการประกาศผลการคัดเลือก 16 คนสุดท้าย และสาวงามคนแรกที่ผ่านเข้ารอบ Fast Track จำนวน 2 รางวัล โดยมาจากคะแนนโหวตสูงสุด ในตำแหน่ง Miss Popular 2020 By Central Pattana และเป็นผู้เข้าประกวดที่มีคะแนนสูงสุด ในแคมเปญ Miss Natural Skin by Kaelyn ทั้ง 2 รางวัลนี้ ได้ตัดสินไปแล้วในรอบ Preliminary Competition ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่ง MT13 ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์ หรือ เมย์ อายุ 27 ปี เป็นผู้คว้าทั้ง 2 รางวัลไปครอง จากนั้นจึงประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบอีก 15 คน ที่คัดสรรโดยคณะกรรมการได้แก่ หมายเลข MT01 ณัชศิญาณ์ วิเชียรชอย (ณัชศรณ์) , MT02 จุฑามณี พาราสิงห์ (แพร) , MT04 แพรววัชร ชมิด (กวาง) , MT05 ปทิตตา สันติวิชช์ (แพรว), MT06 อักษร ทองเปลว (โรส) , MT07 ขวัญทิชา โถรัตน์ (แป้ง) , MT11 สุพรรณิการ์ นพรัตน์ (หยก) , MT15 ยุวภรณ์ ทรงงาม (เฟิร์น) , MT16 ปรียาดา บัวสมบุญ (พลอย) , MT18 แอนนา เสืองามเอี่ยม (แอน) , MT19 ณิษฐกาณต์ อักษรวรรณ (นิต้า) , MT22 ชุติกาญจน์ เสียงจินดารัตน์ (เกรซ) , MT26 ปฏิมาภรณ์ ขยันชม (มีน) , MT28 ธัญจิรา ยารังษี (อุ๋มอิ๋ม), MT30 กมลพร ทองพล (กิ๊ฟ)ทั้ง 16 สาวงามได้ก็อวดโฉม

อีกครั้งในชุดว่ายน้ำแบบและ ตัดเย็บ โดยแบรนด์ PEEYA PIYATIDA ความตื่นเต้นเริ่มเพิ่มทวีขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อพิธีกรได้ประกาศชื่อผู้เข้ารอบ 10 คน ดังนี้ MT22 ชุติกาญจน์ เสียงจินดารัตน์ (เกรซ) , MT07 ขวัญทิชา โถรัตน์ (แป้ง) , MT13 ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์ (เมย์), MT28 ธัญจิรา ยารังษี (อุ๋มอิ๋ม), MT02 จุฑามณี พาราสิงห์ (แพร) , MT19 ณิษฐกาณต์ อักษรวรรณ (นิต้า) , MT05 ปทิตตา สันติวิชช์ (แพรว), MT30 กมลพร ทองพล (กิ๊ฟ) , MT15 ยุวภรณ์ ทรงงาม (เฟิร์น) เเละคนสุดท้ายในรอบ 10 คน MT11 สุพรรณิการ์ นพรัตน์ (หยก)
จากนั้นสาวงามทั้ง 10 คนสุดท้าย ออกเดินโชว์ความงามในชุดราตรีต่อด้วยการแสดงทัศนะคติ คนละ 45 วินาที เกี่ยวกับ “Authentic Empowering Beauty งามอย่างแตกต่างและมีคุณค่า” จนครบทั้ง 10 คน และปิดท้ายด้วยโชว์จาก การแสดงจาก 3 หนุ่ม บาส คิมม่อน คอปเตอร์ ศิลปิน SB FIVE (เอส บี ไฟว์) และนักแสดงจาก Gen Y The Series วัยรุ่นวุ่นวายรักเข้าสู่ความระทึกใจอีกครั้งเมื่อพิธีกรประกาศผลผู้เข้ารอบ 5 ได้เเก่หมายเลข MT05 ปทิตตา สันติวิชช์ (แพรว) , MT11 สุพรรณิการ์ นพรัตน์ (หยก) , MT13 ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์ (เมย์) , MT19 ณิษฐกาณต์ อักษรวรรณ (นิต้า) , MT30 กมลพร ทองพล (กิ๊ฟ) โดยสาวงามทั้ง 5 ต้องตอบคำถามจากการสุ่มซองคำถามจากพิธีกร ก่อนที่เภสัชกรหญิง สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ นางสาวไทยประจำปี 2562 และ Miss International 2019-2020 สาวงามคนแรกของไทยที่คว้ามงกุฎ Miss International ผู้เป็นตำนานประวัติศาสตร์ชาติไทย ได้ปรากฏตัวบนเวทีเพื่ออำลาตำแหน่งนางสาวไทย ก่อนที่พิธีกรจะทำการประกาศผล สาวงามทั้ง 5 ได้เดินอวดโฉมให้ผู้ชมในหอประชุมชมอีกครั้ง จากนั้นจึงประกาศผลการตัดสินเริ่มจาก ตำแหน่งรองอันดับ 4 ได้แก่ MT05 ปทิตตา สันติวิชช์ (แพรว) รองอันดับ 3 ได้แก่ หมายเลข MT30 กมลพร ทองพล (กิ๊ฟ) ซึ่งได้รับรางวัลเงินสดคนละ 100,000 บาท สายสะพายประจำตำแหน่ง พร้อมทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระดับปริญญาตรี ถึง ปริญญาโท รวมมูลค่า 1,200,000 บาท ประกาศรอง อันดับ 2 ได้แก่ MT11 สุพรรณิการ์ นพรัตน์ (หยก) ได้รับรางวัลเงินสด 200,000 บาท สายสะพายประจำตำแหน่ง พร้อมทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระดับปริญญาตรี ถึงปริญญาโท มูลค่า 1,200,000 บาท

เข้าสู่วินาทีแห่งความทรงจำ นั่นคือการประกาศผู้ได้รับตำแหน่ง นางสาวไทย ประจำปี 2663 ได้แก่ MT13 ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์ (เมย์) โดยได้รับรางวัลเงินสด 1,000,000 บาท มงกุฎเพชร วชิรคฑา และสายสะพายประจำตำแหน่ง พร้อมทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระดับปริญญาตรี ถึง ปริญญาเอก รวมมูลค่า 2,500,000 บาท เป็นนางสาวไทยคนที่ 52 และจะได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นทูตวัฒนธรรมและทูตการท่องเที่ยวประจำประเทศไทย
สำหรับ รองนางสาวไทยอันดับที่ 1 ได้แก่ MT19 ณิษฐกาณต์ อักษรวรรณ (นิต้า) ได้รับเงินสด 300,000 บาท สายสะพายประจำตำแหน่ง พร้อมทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระดับปริญญาตรี ถึง ปริญญาโท รวมมูลค่า 1,200,000 บาท

ร่วมแสดงความคิดเห็น