รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่ภูชี้ฟ้าติดตามผลการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่

เวลา 10.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. 63 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนบนเขตพื้นที่ภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย โดยมี ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร รอง ผวจ.เชียงราย พร้อมด้วย นายเอนก ปันทะยม ปลัดอาวุโสอำเภอเทิง รักษาราชการแทนนายอำเภอเทิง และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดทั้งผู้บริหารท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับจำนวนมาก ณ ลานกิจกรรมบ้านร่มฟ้าไทย ม.24 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย

การลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงรายในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการติดตามการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่ภูชี้ฟ้าแล้ว นายทูลสวัสดิ์ ยอดมณีบรรพต เป็นตัวแทนชาวบ้านนำเรียนปัญหาที่ชาวบ้านได้พบเจอเพื่อขอปรึกษาหาทางแก้ไขปัญหากับ ร.อ.ธรรมนัส รมช.เกษตรฯ ซึ่งปัญหาหลักที่ชาวบ้านต้องการความชัดเจนจากภาครัฐ ได้แก่ ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ โดยนายทูลสวัสดิ์ชี้แจงว่า พื้นที่ภูชี้ฟ้าในอดีตมีการสู้รบระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กับทหารรัฐบาลจากความขัดแย้งทางความคิดการเมือง สู้รบการยาวนานถึง 15 ปี จนกระทั่งสงครามดังกล่าวสงบด้วยพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ โดยในครั้งนั้นรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายที่เรียกว่า คำสั่ง 66/23 ซึ่งมีเนื้อหาที่จะนิรโทษกรรมให้กับผู้ร่วมขบวนการก่อการร้าย และมอบที่อยู่อาศัยให้กับผู้ก่อการร้ายที่กลับใจวางอาวุธ ตลอดจนทหารที่ร่วมรบในสงครามและสมัครใจเข้าร่วมเป็น “ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.)” ครัวเรือนละ 1 ไร่ พร้อมกับที่ทำกินอีกครอบครัวละ 15 ไร่ ซึ่งตั้งแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าวออกมาจนถึงทุกวันนี้ชาวบ้านในพื้นที่ยังไม่ได้รับเอกสารสิทธิ์ตามที่ทางรัฐบาลในสมัยนั้นได้รับปากไว้แต่อย่างได ทวงถามไปหลายหน่วยงาน หลายช่องทางแต่ก็หายเงียบ

อีกปัญหาสำคัญของชาวบ้านในพื้นที่ก็คือ การคัดค้านการยกฐานะอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า โดยให้ความเห็นว่า ทางอุทยานไม่ได้ดำเนินการตามกระบวนการปกติ ไม่ผ่านการทำประชาคมของชาวบ้านในพื้นที่ ต้องการกันพื้นที่ป่ารอบชุมชนบางส่วนเพื่อทำเป็น “ป่าชุมชน” เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลรักษาป่า และที่สำคัญชาวบ้านกังวลเกี่ยวกับเขตพื้นที่ภูชี้ฟ้ามีแนวเขตติดต่อกับ สปป.ลาว มีพื้นที่ทับซ้อนเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร หากมีการยกฐานะเป็นอุทยานก็เกรงว่าจะกระทบเรื่องความมั่นคง และเป็นชนวนเหตุความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านในอนาคตอีกด้วย โดย รมช.เกษตร ยังได้เดินทางขึ้นไปดูแนวแบ่งเขตประเทศไทยและสปป.ลาว บนภูชี้ฟ้าตามที่ตัวแทนชาวบ้านได้พาไปชมด้วย

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับปากจะนำเอาปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านบนพื้นที่ภูชี้ฟ้าไปประชุมหารือกับทางรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกให้กับชาวบ้านต่อไป โดยจะมีการเชิญตัวแทนชาวบ้านเข้าไปร่วมชี้แจงปัญหา ผลกระทบ และข้อกังวลของชาวบ้านให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับรู้ด้วย

“นอกจากปัญหาที่ทำกิน และการคัดค้านยกฐานะอุทยานภูชี้ฟ้าแล้ว ปัญหาอุทกภัย ปัญหาภัยแล้ง และปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ก็ถือเป็นปัญหาใหญ่ของชาวบ้าน ทั้งนี้ทางรัฐบาลจะเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ และจะประสานการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนให้ได้รับการช่วยเหลือตามนโยบายของรัฐบาลอย่างทั่วถึงต่อไป” รมช.เกษตรฯกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น