เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ธ.ค.63 รายงานข่าวแจ้งว่า นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วยคณะผู้ติดตาม ได้ลงพื้นที่บริเวณสถานีขนส่งอาเขตแห่งที่ 3 อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบความพร้อมในการให้บริการรถโดยสารสาธารณะแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว พร้อมตรวจสอบความพร้อมในเรื่องของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการคัดกรองผู้โดยสาร และการตรวจสอบร่างกาย รวมไปถึงความสะอาดของพื้นที่ในการให้บริการ นอกจากนี้ยังได้มีการมอบนโยบายในเรื่องของการเตรียมความพร้อมของทางเจ้าหน้าที่เพื่อให้สามารถอำนวยความสะดวก และช่วยเหลือประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางในพื้นที่ช่วงเทศกาลที่ใกล้จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้ ซึ่งในการลงพื้นที่ตรวจความพร้อมในวันนี้ พบว่ายังมีความพร้อมเป็นอย่างดีและไม่มีปัญหาในเรื่องของการให้บริการกับประชาชนแต่อย่างใด นอกจากนี้ทางรองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยังได้มีการขอความร่วมมือกับประชาชนและนักท่องเที่ยว ในเรื่องของการดูแลตัวเองเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ต้องรักษาความสะอาด สวมใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างในการอยู่รวมกัน พร้อมทั้งได้มีการแจกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือให้กับประชาชนที่เข้ามาใช้บริการภายในสถานีขนส่งอาเขตอีกด้วย
ทั้งนี้ทางด้าน นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงสถานการณ์ในเรื่องของการเดินทางในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลทำให้ปีนี้มีความพิเศษกว่าปีก่อนๆ ที่ผ่านมา ที่เรื่องของการเตรียมรถเพื่อรองรับและให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้เดินทางนั้น อาจจะยังไม่ได้ทำ เนื่องจากในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนการเดินทางปีใหม่พบว่ามีการคืนตั๋วเดินทางกันประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์แล้ว และคาดว่าจะมียอดเพิ่มขึ้นอีกเป็น 30-40 เปอร์เซ็นต์ แต่ในส่วนของทางภาคเหนือนั้นยังโชคดีที่เป็นกรีนโซน ทำให้ยอดการคืนตั๋วไม่มากนัก แต่ในส่วนของภารกิจที่ทางกรมการขนส่งทางบกปฏิบัติอยู่เป็นประจำทุกเทศกาล ก็มีการดูแลอย่างเต็มที่ทั้งรถ ทั้งคน ส่วนภารกิจที่เพิ่มขึ้นมาก็คือการดูแลมาตรการทางสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวัดอุณหภูมิ การขอความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัย และการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะเพื่อง่ายต่อการติดตามตัว
นอกจากนี้ในส่วนของประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจคือเรื่องของการเดินทางของกลุ่มต่างด้าวนั้น จะของดการเดินทางก่อน แต่สำหรับชาวต่างชาติที่มี Passport หรือผู้ถือบัตรสีชมพู ก็ยังสามารถเดินทางในเขตที่ตนเองได้รับอนุญาตได้ ตามที่มีการระอนุญาตให้เดินทางได้บริเวณเขตไหน หรือจังหวัดอะไรบ้าง แต่ในส่วนของคนที่ไม่มีใบอนุญาตหรือเอกสารที่ชัดเจนนั้นจะไม่สามารถเดินทางได้ แต่ในส่วนของบางจังหวัดก็ขึ้นอยู่กับอำนาจการสั่งการของทางผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ทางจังหวัดพะเยา ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ได้มีการสั่งห้ามเคลื่อนย้ายทั้งเข้าและออกทั้งจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่ถือบัตร Passport หรือผู้ถือบัตรสีชมพู ซึ่งตรงจุดนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับคำสั่งการของจังหวัดอีกทางด้วย ขณะที่ในส่วนของทางขนส่ง ก็จะรับนโยบาย ส่วนในเรื่องการเคลื่อนย้ายต่างด้าวนั้นจะต้องรอรับนโยบายจากกระทรวง หรือจากมหาดไทย หรือจากแต่ละจังหวัดว่าจะมีนโยบายอย่างไร ส่วนทางขนส่งก็จะดูแลเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสารเป็นหลัก รวมทั้งการใช้รถอย่างถูกต้องตามมาตรการสาธารณสุขด้วย
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของมาตรการและความปลอดภัยทางถนนนั้น ทางด้านท่านศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้ความสำคัญและเน้นย้ำในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยให้มีการจัดตั้งจุด Checking Point ซึ่งเป็นการดำเนินการมาแล้วกว่า 1 ปี และย่างเข้าสู่ปีที่ 2 ที่จะมีจุดของสำนักงานขนส่งจังหวัดทุก 120 กิโลเมตร ทั่วประเทศไทย จะมีเจ้าหน้าที่ตั้งจุดเพื่อตรวจเช็ครถ เช็คคน และตรวจสอบความเรียบร้อยทุกอย่าง รวมไปถึงการเน้นย้ำเรื่องของการสวมใส่หน้ากากอนามัยและการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความพร้อมในเรื่องของความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะนั้นไม่ได้มีความกังวลในเรื่องของการใช้รถใช้ถนนมากนัก เพราะทุกภาคส่วนของคมนาคมก็ให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีในการที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เดินทาง จึงมั่นใจได้ว่าการเดินทางในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้จะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ร่วมแสดงความคิดเห็น