(มีคลิป) รองแม่ทัพภาคที่ 3 แนะ กอ.รมน.จังหวัด ตรวจสอบพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานเนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อประชาชน

จากการเฝ้าตรวจสอบสภาพอากาศและจุดความร้อนสะสมในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือของกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า พบว่า มี 2 พื้นที่ ได้แก่ อ.เมือง จังหวัดพิษณุโลก และ อ.แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ที่เริ่มมีค่า pm 2.5 pm 10 และ AQI เกินค่ามาตรฐานติดต่อกันหลายวันในช่วงนี้

พลตรี ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ได้ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเข้าตรวจสอบสาเหตุของสภาพอากาศในแต่ละจังหวัด พร้อมแนวทางการแก้ไขในแต่ละจุดเพื่อควบคุมไม่ให้สภาพอากาศส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตของประชาชน

ทั้งนี้จากการบินสำรวจของกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่พบว่า บางพื้นที่ทางโซนเหนือ ด้าน อ.เวียงแหง อ.ฝาง อ.ไชยปราการ มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ที่มีการควบคุมเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อปริมาณฝุ่นละออง เนื่องจากข่วงนี้สภาพอากาศนิ่ง ความกดอากาศสูง จึงต้องควบคุมเป็นพิเศษ


ทางด้าน พ.อ.วัชรพงศ์ แก้วแจ้ง รอง ผอ.รมน.จังหวัด พ.ล.(ท.) ได้รับรายงานจาก นายธีรัชสิทธิ์ วงศ์วาน ผอ.สง.ทสจ.พ.ล. หัวหน้าฝ่ายประสานการปฏิบัติฯ กอ.รมน.จังหวัด พ.ล. มอบหมายเจ้าหน้าที่ตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก

ผลการตรวจวัด สภาพอากาศช่วงเช้า พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 52 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งสาเหตุเกิดจากเกิดจุดความร้อนเกิดขึ้นในพื้นที่การเกษตรของ อ.วัดโบสถ์ อ.บางกระทุ่ม อ.บางระกำ และ อ.พรหมพิราม โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ อ.วัดโบสถ์ ป่าสงวน อ.ชาติตระการ ประกอบกับช่วงนี้อากาศหนาวเย็นลง ความกดอากาศสูง ส่งผลให้ค่าปริมาณฝุ่นละอองสูงขึ้น โดยในขณะนี้ กอ.รมน.จว.พ.ล. ได้จัดเจ้าหน้าที่ของจังหวัด และ อำเภอ ลงพื้นที่ให้คำแนะนำกับ ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ และ ประชาชน ห้ามเผาป่า พื้นที่การเกษตร และให้ช่วยกันดูแลป่า เพื่อสุขภาพของตนเองและผู้อื่น

ร่วมแสดงความคิดเห็น