หัวหน้าหน่วยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน นำเจ้าหน้าที่จับกุม กลุ่มขบวนการลักลอบขนบุก ออกจากพื้นที่ ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน พบมีการลักลอบลำเลียงบุกออกจากพื้นที่ไปแล้วกว่า 9 หมื่น กก. คิดเป็นค่าเสียหายมหาศาล นอกจากพื้นที่ อ.แม่สะเรียง แล้ว ในพื้นที่ อำเภออื่น ๆ ก็มีการลักลอบในลักษณะเดียวกัน คาดมีบุกถูกลักลอบออกจากพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ในห้วงเดือนตุลาคม ถึงปัจจุบัน ไม่ต่ำกว่า 1 ล้าน กก. ภาครัฐเสียหายกว่า 3 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.10 น. นายจีระศักดิ์ ทิพย์วงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน และ นายมิตร อุตมะ ผู้อำนวยการ ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากรบ้านโพซอ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมพวก ได้ทำการจับกุม รถกระบะบรรทุก ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ยฉ-6430 เชียงใหม่ โดยมีนายวิมล สดุดี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/3 หมู่ 5 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นคนขับ และมี น.ส.สรัลรัศมิ์ หมูแก้วเครือ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 377/31 ถนนมหิดล ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นั่งมาในรถ จากการตรวจสอบกระบะด้านหลังรถ พบกระสอบบรรจุ บุกไว้ภายใน จำนวน 120 ถุง คิดเป็นน้ำหนัก 3,513 กก. โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ได้รับการว่าจ้างจาก เฮียบู๊ ให้มาบรรทุกบุก ที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านโพซอ หมู่ 5 ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อนำไปส่งโรงงานในพื้นที่ จ.ตาก
โดยจากการตรวจสอบพบว่าบุกดังกล่าว เป็นการเก็บมาจากในป่า ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายป่าไม้ พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐานเก็บหาของป่า( บุก ) หรือกระทำการใดใด อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 34 ฐาน ผู้ใดรับไว้ ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียซึ่งไม้ หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้ว ว่าเป็นไม้หรือของป่าที่ผู้ได้มาโดยการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.นี้ ต้องระวางโทษ เสมือนเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่ง พงส.สภ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนของกลางได้ยึดและนำเก็บไว้ที่ ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน บ้านโพซอ ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง ฯ
สำหรักการลักลอบนำบุก จากพื้นที่ ต. เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ส่งให้นายทุน เริ่มมีการดำเนินงานตั้งแต่เดือตุลาคม 2563 โดยมีการลักลอบลำเลียง สัปดาห์ละครั้ง ใช้รถปิคอัพ จำนวน 2 คัน เป็นรถที่มีการเสริมแหนบ สามารถบรรทุกได้ครั้งละ 4,000 กก.หรือ 4 ตัน สรุปในแต่ละสัปดาห์ กลุ่มขบวนการจะมีการลำเลียงบุก ส่งให้นายทุนจำนวน 8,000 กก./ 8 ตัน คิดเป็นปริมาณบุกที่ถูกลักลอบ จำนวน 32,000 กก. หรือ 32 ตัน คิดเป็นเงินค่าบุก จำนวน 208,000 บาท ต่อสัปดาห์ ถ้าต่อเดือน คิดเป็นเงิน 832,000 บาท ต่อเดือน โดยกลุ่มขบวนการดังกล่าวได้มีการดำเนินการ ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึง เดือนธันวาคม ได้มีการลักลอบลำเลียงบุก ออกจากพื้นที่ ต.เสาหิน จำนวน 96,000 กก. หรือ 96 ตัน คิดเป็นเงินจำนวน 2,496,000 บาท คิดเป็นค่าเสียหายต่อรัฐ 74,880 บาท ( ค่าภาคหลวง)
นอกจากการลักลอบลำเลียงบุกในพื้นที่ ต.เสาหินแล้ว ในพื้นที่ อ.ขุนยวม , อ.สบเมย และอ.แม่ลาน้อย ก็มีการลักลอบลำเลียงบุกออกไปในห้วงเดียวกัน หากคิดเป็นปริมาณบุก จะมีการลักลอบลำเลียงบุกออกจากพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ไม่ต่ำกว่า 1,000,000 กก. หรือ 1 ล้านกิโลกรัม โดยมีการนำส่งโรงงานใน จ.ลำพูน และ จ.ตาก คิดเป็นค่าเสียหายต่อรัฐไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะมีนักการเมืองท้องถิ่น ( นายก.อบต. ) ในแต่ละพื้นที่จะกว้านซื้อบุกจากชาวบ้านที่ไปเก็บมาจากในป่า แล้วมาขายต่อให้นายทุกที่มารับซื้อถึงที่ โดยจะมีการเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทำให้สามารถลำเลียงบุกส่งไปจังหวัดอื่นได้โดยสะดวก และไม่เคยมีการจับกุมมาก่อนหน้านี้
ร่วมแสดงความคิดเห็น