ย้ำชัด 5 จังหวัด ไม่มีเอกสารแสดงเข้าพื้นที่โทษคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท

เชียงใหม่คุมเข้มจุดตรวจจุดคัดกรอง ย้ำ!! คนเดินทางจาก 5 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หากไม่มีเอกสารเข้าพื้นที่ต้องโดนดำเนินคดีตามคำสั่งจังหวัด จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท ส่วน 23 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด ต้องแจ้งเดินทาง พร้อมลงทึกข้อมูลลงในแอปพลิเคชั่น CM-CHANA และ หมอชนะ

เมื่อเวลา 10.30 น .วันที่ 11 ม.ค.63 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ห้องประชุมชั้น 3 สถานีตำรวจภูธรสารภี จ.เชียงใหม่ นายเลอยศ พุทธชิโนรสสกุล นายอำเภอสารภี (หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอสารภี) พร้อมด้วย พ.ต.อ.บัญชา อินถา ผกก.สภ.สารภี นายโกวิท เกษรศรี สาธารณสุขอำเภอสารภี ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อปฏิบัติในการเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เล้นทางหลวงหมายเลข 11 เชียงใหม่-ลำปาง โดยได้มีการดำเนินการจัดตั้งจุดตรวจจุดคัดกรองโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่บริเวณใต้สะพานยกระดับ ศูนย์บริการข้อมูลประชาชน แขวงทางหลวงเชียงใหม่ 2 ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ หลังพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการคุมเข้มการแพร่ระบาดขอเชื้อ และเพื่อเป็นการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในการเดินทางของประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด รวมไปถึงจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด 23 จังหวัด ตามที่มีการประกาศ

โดยทาง นายเลอยศ พุทธชิโนรสสกุล นายอำเภอสารภี (หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอสารภี) เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางปฏิบัติของผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5 จังหวัด ดังกล่าว ที่เดินทางเข้ามาในจุดตรวจ จุดคัดกรอง จะต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายก่อนเป็นอันดับแรก และผู้ที่เดินทางจะต้องแสดงตนกับเจ้าพนักงานประจำจุดตรวจว่ามาจากจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5 จังหวัดดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงบัตรประจำตัวประชาชน และจากนั้นทางเจ้าพนักงานจะอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยให้ผู้เดินทางจอดรถชิดขอบทางด้านซ้ายเพื่อลงจากรถมารายงานตัวกับพนักงานสอบสวน 3 ฝ่าย คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สารภี เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.สารภี และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สารภี โดยผู้เดินทางจะต้องแสดงเอกสารรับรอง ได้แก่ เอกสารรับรองความจำเป็น เอกสารรับรองการปฏิบัติหน้าที่ หรือเอกสารรับรองการติดต่อราชการ อย่างใดอย่างหนึ่งให้กับทางเจ้าพนักงานทั้ง 3 ฝ่ายดู ซึ่งทางเจ้าพนักงานจะตรวจสอบเอกสารความจำเป็น พร้อมทั้งสอบสวนเหตุผลในการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ ตลอดจนบันทึกข้อมูลหลักฐานสำคัญไว้

“ทั้งนี้หากพบว่าผู้เดินทางไม่แสดงเอกสารรับรองดังกล่าว หรือผู้เดินทางไม่มีเอกสาร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการแจ้งข้อหา และควบคุมตัวมายัง สภ.สารภี เพื่อดำเนินคดีกับผู้เดินทางในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 9/2564 ลงวันที่ 10 มกราคม 2564 โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และเจ้าหน้าที่จะดำเนินการแจ้งให้ผู้เดินทางบันทึกข้อมูลลงในแอปพลิเคชั่น CM-CHANA และ หมอชนะ”

นอกจากนี้ในส่วนของผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดที่ประกอบด้วย 23 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตาก นนทบุรี ปทุมธานี พนะนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง นครนายก กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรปราการ ชุมพร ระนอง และกรุงเทพมหานคร จะต้องเดินทางเข้ามาในจุดตรวจจุดคัดกรอง จะต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกาย และแสดงตัวกับเจ้าพนักงานจุดตรวจเพื่อแจ้งว่ามาจากจังหวัดใด จากนั้นทางเจ้าพนักงานจะอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยให้ผู้เดินทางจอดรถชิดขอบทางด้านซ้ายเพื่อลงจากรถมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลเดินทางเข้าจังหวัด และบันทึกข้อมูลหลักฐานสำคัญไว้ พร้อมทั้งบันทึกข้อมูลลงในแอปพลิเคชั่น CM-CHANA และ หมอชนะ

ด้าน พ.ต.อ.บัญชา อินถา ผกก.สภ.สารภี เปิดเผยว่า ในส่วนของตำรวจ สภ.สารภี รับผิดชอบในเรื่องของการดูแลด้านการจราจร โดยการคัดแยกรถที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ทั้งรถของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และรถที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยขอให้ประชาชนและผู้เดินทางปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่ที่ให้สัญญารจราจร และในเรื่องของมาตรการในการดำเนินคดีนั้นยังคงมีการดำเนินการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด โดย 5 จังหวัดที่กล่าวมานี้หากเดินทางมาแล้วไม่มีเอกสารที่ชัดเนตามระเบียบ เมื่อมาถึงยังจุดตรวจ หากเจ้าหน้าที่พบเจอก็จะต้องถูกสอบสวนด้วยคณะเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย และหากยังไม่มีเอกสารที่จะมายืนยันที่มาที่ไปในการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ทางเจ้าหน้าที่ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีกับผู้เดินทางตามคำสั่งของ เชียงใหม่ ที่ 9/2564 ลงวันที่ 10 มกราคม 2564 ตามมาตรการ ซึ่งต้องขอให้ประชาชนและผู้เดินทางได้ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามกฎมาตรการที่กล่าวมาด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น