(มีคลิป) ผู้ต้องหาขนลำเลียงบุก ร้องขอความเป็นธรรมถูกจับขนบุก อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

ผู้ต้องหาขนลำเลียงบุก ที่ถูกจับในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูกจับ โดยระบุว่า ก่อนหน้าที่จะถูกจับ ได้มีเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าเข้าไปดำเนินการตรวจสอบพิกัดจุดที่ปลูกบุก และตรงตามข้อมูลทุกอย่าง แต่มาถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินจับกุมขณะวิ่งรถบนถนนดำ วอนให้ความเป็นธรรมต่อราษฎรผู้ปลูกบุก ด้านกลุ่มผู้ปลูกบุกบ้านโพซอ เตรียมยื่นถวายฎีกาเพื่อราษฎรผู้ปลูกบุกทั่วแม่ฮ่องสอน

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2564 นายวิมล สดุดี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/3 หมู่ 5 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และ น.ส.สรัลรัศมิ์ หมูแก้วเครือ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 377/31 ถนนมหิดล ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน กรณีที่ได้ถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน จับกุมรถบรรทุกบุก ขณะวิ่งบนถนนสายแม่สะเรียง – บ้านโพซอ ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งการจับกุมดังกล่าว ตนคิดว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม สาเหตุก็คือ ในตอนแรกที่ตนเข้าไปขนบุกที่บ้านโพซอ ซึ่งเป็นบุกของผู้ใหญ่บ้านโพซอ ได้มีเจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้ เข้าไปตรวจสอบพื้นที่จัดเก็บบุก

โดยพบว่า บุกที่ลำเลียงออกมานั้น เป็นบุกที่ปลูกในพื้นที่ส่วนบุคคลของราษฎร ในนามวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกบุกเพื่อจำหน่ายบ้านโพซอ เลขที่ 15 หมู่ 5 ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้ได้มีการจับพิกัดและพบว่า ถูกต้องตามกฎหมาย โดยกลุ่มผู้ปลูกบุกที่นำบุกมาจำหน่าย มีเอกสารทางราชการรับรอง ได้แก่ หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกบุกเพื่อจำหน่ายบ้านโพซอ เลขที่ 15 หมู่ 5 ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน 58110 ได้รับการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ.2548 รหัส ทะเบียน6-58-04-06/1-0019 ให้ไว้ ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2560 เกษตร อ.แม่สะเรียง
สำหรับวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกบุกบ้านโพซอ มีสมาชิกจำนวน 2 ราย มีเอกสารการดำเนินการตั้งแต่ ปี พ.ศ.2560 จนถึง 31 ธันวาคม 2564

ซึ่งในการเข้าไปรับซื้อบุก ทางผู้ว่าจ้างก็ได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวินเป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้รับคำยืนยันว่า ถ้าทำถูกต้องตามกฎหมายก็สามารถขนลำเลียงบุกออกไปจำหน่ายได้ แต่เมื่อตนขนลำเลียงบุกออกมาแล้ว กลับมาถูกจับกุม

ทางด้านกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกบุก ได้มีการปรึกษากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายหน่วยงาน และรวมไปถึง สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งได้มีการได้รับคำแนะนำว่า ให้ทำเรื่องถวายฎีกาต่อเชื้อพระวงศ์เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากโครงการปลูกบุกครั้งแรกในแม่ฮ่องสอน เป็นโครงการในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ที่นำพันธุ์บุกมาแจกให้กับเกษตรกรในพื้นที่แม่ฮ่องสอน เพื่อให้ราษฎรได้มีรายได้เสริมและป้องกันการบุกรุกป่า หรือลักลอบเข้าไปหาของป่ามาจำหน่าย

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน ได้จับกุมรถกระบะบรรทุก ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ยฉ-6430 เชียงใหม่ โดยมี นายวิมุล อายุ 46 ปี อยูบ้านเลขที่ 119/3 หมู่ 5 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นคนขับ และมี น.ส.สรัลรัศมิ์ หมูแก้วเครือ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 377/31 ถนนมหิดล ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นั่งมาในรถ จากการตรวจสอบกระบะด้านหลังรถ พบกระสอบบรรจุ บุกไว้ภายใน จำนวน 120 ถุง คิดเป็นน้ำหนัก 3,513 กก. โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ได้รับการว่าจ้างจาก เฮียบู๊ ให้มาบรรทุกบุก ที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านโพซอ หมู่ 5 ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อนำไปส่งโรงงานในพื้นที่จ.ตาก โดยจากการตรวจสอบพบว่าบุกดังกล่าว เป็นการเก็บมาจากในป่า ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายป่าไม้ พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐานเก็บหาของป่า( บุก ) หรือกระทำการใดใด อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 34 ฐาน ผู้ใดรับไว้ ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียซึ่งไม้ หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้ว ว่าเป็นไม้หรือของป่าที่ผู้ได้มาโดยการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.นี้ ต้องระวางโทษ เสมือนเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป