ปปช. ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างบ่อน้ำบาดาลระบบพลังงานแสงอาทิตย์ หลังได้รับการร้องเรียนว่า สร้างในที่เอกชนที่ไม่ได้ขออย่างเป็นทางการ

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 256 เวลา 15.00 น. พ.ต.ท.ดร.ศิระปรุฬห์ ปวเรศจิรวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปช ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนายพงษ์ภีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ลงตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างบ่อน้ำบาดาลในพื้นที่ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนว่าการก่อสร้างดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ครอบครองของเอกชนที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของอย่างเป็นทางการ ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและที่ดินทำกิน โดยการก่อสร้างเป็นโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ประจำปี 2563 บ้านห้วยป๊อกจ่าน (หย่อมบ้านบ้านปางหมู) กลุ่มที่ 1 หมู่ที่ 1 ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน สร้างโดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ประกอบด้วยถังเก็บน้ำบาดาล แผงโซล่าเซลล์แสงอาทิตย์ และบ่อน้ำบาดาล อยู่ในพื้นที่ประมาณ 1 งาน

นายทัพพสาร โชติมณีชัย เจ้าของที่ดิน กล่าวเปิดเผยว่า ตนเองเป็นเจ้าของที่ดินอยู่บ้านเลขที่ 304 หมู่ 1 ตำบลปางหมู โดยมีโฉนดที่ดินเลขที่ 9287 จำนวน 1 ไร่ 56 ตารางวา ออกให้วันที่ 1 สิงหาคม 2561 โดยเจ้าพนักงานที่ดิน ที่มีการก่อสร้างในพื้นที่ตนเองไม่ทราบมาก่อน เพราะที่ดินอยู่ห่างจากบ้านที่อยู่อาศัยนาน ๆ จะเข้ามาดูแลครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้มาดูที่ดินก็ตกใจว่าใครมาสร้างบ่อน้ำบาลดาลโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบ จึงได้สอบถามหน่วยงานที่มีชื่อในป้ายโครงการทราบว่าได้มีการขออนุญาตจากเจ้าของแล้ว ซึ่งทราบว่าคนที่อนุญาตมีศักดิ์เป็นลุงที่บวชพระอยู่ แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายในโฉนดที่ดินดังกล่าว ตนเองจึงได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอและจังหวัดพร้อมทั้งร้องไปที่ ปปช.เพื่อให้มีการตรวจสอบว่าการก่อสร้างถูกต้องหรือไม่เพราะตนเองได้รับความเสียหายในที่ดิน เพราะจะใช้ในการทำเกษตรและเตรียมปลูกสิ่งก่อสร้างด้วย

นายพงษ์ภีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ภายหลังจากลงตรวจสอบพื้นที่แล้ว ได้กล่าวว่า จากการสอบถามไปที่องค์การบริหารส่วนตำบลปางหมู ทราบว่าชาวบ้านได้มีการจัดทำประชาคมเห็นชอบและมีผู้อนุญาตให้ทำในพื้นที่ได้ แต่เป็นการอนุญาตโดยวาจาไม่มีรายลักษณ์อักษร ซึ่งเรื่องดังกล่าวคงต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เมื่อมีการขัดแย้งเกิดขึ้นก็จะต้องตรวจสอบให้ความเป็นธรรม ถ้าผู้ก่อสร้างมีความผิดจริงก็ต้องมีการตกลงกันว่าจะเอาอย่างไรต้องทุบทิ้งหรือตกลงชดเชยค่าเสียหายอย่างไรกันบ้างตามความเป็นจริง แต่สิ่งก่อสร้างก็มีประโยชน์ต่อชาวบ้านจะได้มีน้ำใช้ในด้านสาธารณูปโภคและการเกษตร แต่ขอให้ตรวจสอบก่อนเพื่อความเป็นธรรม

พ.ต.ท.ดร.ศิรปรุฬห์ ปวเรศจิรวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปช.ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของที่ดินว่ามีสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่โดยไม่ขออนุญาตทำให้เกิดการสูญเสียทรัพย์สินที่ดินทำกิน จึงได้เข้ามาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงว่ามีความผิดพลาดตรงไหน อย่างไร แต่จะไม่ชี้มูลว่ามีความผิดในด้านการทุจริตหรือไม่เพราะยังไม่ได้สอบสวนข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย หลังจากนี้ก็จะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเจ้าของโครงการชี้แจงก่อน จากป้ายโครงการที่ปักไว้ในพื้นที่ก่อสร้าง เป็นหน่วยราชการที่สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งป้ายโครงการก็ไม่ได้ระบุถึงรับจ้างก่อสร้าง งบประมาณในการก่อสร้าง รวมถึงผู้รับผิดชอบควบคุมการก่อสร้าง ไม่มีในป้ายโครงการ มีแต่เพียงเป็นสร้างโดยกรมทรัพยากรน้ำบาลดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น

ทศพล / แม่ฮ่องสอน

ร่วมแสดงความคิดเห็น