ชุมชนรอบภูชี้ฟ้าร่วมมือภาครัฐ ทำแนวกันไฟ 2 แผ่นดินไทย-ลาว

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 64 ทหาร ตำรวจ หน่วยไฟป่า ร่วมกับชาวบ้าน ทำแนวป้องกันไฟป่าตามแนวสันเขาภูชี้ฟ้า มีผู้ร่วมกิจกรรมประมาณ 70 คน

นายบุญชัย ชาญชัยพิทักษ์สิน ผญบ.ร่มฟ้าไทย ม.24 ต.ตับเต่า เผยว่า ในวันนี้ผู้นำชุมชนและชาวบ้านได้ร่วมมือกับทหารชุดประสานงานโครงการพระราชดำริ (มทบ.34) ทหารพราน ทพ.3307 (ฉก.ทพ.32) สถานีควบคุมไฟป่าภูชี้ฟ้า ตชด.326 และตำรวจ สภ.เทิง รวมจำนวนประมาณ 70 คน ทำแนวป้องกันไฟป่าตามแนวชายแดนไทย-ลาว ตั้งแต่รอบหมู่บ้านร่มฟ้าไทย ขึ้นไปตามแนวสันเขา ผ่านจุดชมวิวภูฟ้าไทยไปถึงภูชี้ฟ้า และวกกลับมาตามแนวสันเขามาถึงหมู่บ้าน เป็นระยะทางรวมประมาณ 6 กม.

“ภูชี้ฟ้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชมทะเลหมอกชื่อดังของจังหวัดเชียงรายและมีชื่อเสียงระดับประเทศ เป็นพื้นที่ชายแดนติดกับ สปป.ลาว เป็นระยะทางนับ 10 กม. ทุกๆปีในช่วงฤดูแล้งจะมีไฟป่าที่ลุกลามข้ามมาจากฝั่ง สปป.ลาว และข้ามตามแนวสันเขาเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทยตลอด ทางชุมชนจึงมีแนวคิดจะทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟป่าจากประเทศเพื่อนบ้านมาก่อความเสียหายในพื้นที่ จึงประสานกับหน่วยงานต่างๆบนภูชี้ฟ้า ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่มาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทำให้สามารถทำแนวกันไฟรอบชุมชนได้จนสำเร็จเสร็จสิ้นดังที่ได้กำหนดเป้าหมายไว้” ผญบ.ร่มฟ้าไทยกล่าว

ชาวบ้านร่มฟ้าไทยจะพากันทำแนวกันไฟในทุกปีๆละ 2 ครั้ง คือในช่วงต้นปีปลายฤดูหนาว และต้นฤดูฝนช่วงกลางปี ในปีนี้นอกจากการทำแนวกันไฟแล้ว ทางชุมชนจะมีแนวคิดจะทำหอคอยเฝ้าระวังไฟป่าบนจุดชมวิวภูฟ้าไทย โดยวางแผนจะทำเป็นโครงเหล็กเพื่อความแข็งแรงและใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดเฝ้าระวังไฟป่าแล้วยังสามารถใช้เป็นจุดท่องเที่ยวเช็คอินในฤดูกาลท่องเที่ยวได้อีกด้วย

และอีกหนึ่งแผนงานในการป้องกันไฟป่าก็คือ จะมีการปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งตามแนวสันเขา 2 ข้างทาง ตั้งแต่หมู่บ้านขึ้นไปถึงภูชี้ฟ้า และลัดเลาะตามแนวสันเขากลับมาถึงหมู่บ้านเป็นระยะทางรวม 6 กม. โดยจะแบ่งให้แต่ละครอบครัวช่วยกันดูแลต้นไม้ครัวเรือนละประมาณ 10 ต้น ทุกครอบครัวจะต้องดูแลให้ต้นไม้เติบโต หากมีต้นไม้ต้นไหนตายจะต้องมีการปลูกทดแทน คาดว่าในอนาคตประมาณ 5 ปีข้างหน้าต้นนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งเป็นทางยาวตั้งแต่หมู่บ้านไปถึงภูชี้ฟ้า เป็นอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวสำคัญในอนาคต

ร่วมแสดงความคิดเห็น