วันที่ 22 ม.ค.64 ทางผู้สื่อข่าวได้ทราบมาว่า ที่บริเวณถนนศรีดอนไชย ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ติดกับวัดพวงช้าง ก่อนถึงสามแยกแจ่งขะต๊ำ ก่อนเข้าสู่ถนนราชเชียงแสน คูเมืองด้านนอก ได้มีร้านขายก๋วยเตี๋ยวชามโต ในราคาเพียงถ้วยละ 20 บาท และหากใส่ถุงกลับบ้านก็เพียงถุงละ 25 บาท อีกทั้งหากใครมีคนละครึ่งก็จ่ายเพียง 10 บาท เพราะเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายคนลดการใช้จ่ายเงิน ประกอบกับคนละครึ่งหมด เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนที่ตกงาน ว่างงาน
โดยหลังจากที่ทราบเรื่อง ทางผู้สื่อข่าวจึงได้ไปลงพื้นที่ ก็พบว่าร้านดังกล่าวมีชื่อว่า “เตี๋ยวตาไก่” ซึ่งมี นายกฤษดา ยศถาวร หรือ ไก่ครกหลวง อายุ 64 ปี เป็นเจ้าของร้าน โดยจากการสอบถามทราบว่า เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวบริเวณนี้มาได้ประมาณเกือบ 3 เดือน โดยช่วงแรกขายดีมากได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล หลังจากหลายคนใช้คนละครึ่งหมด
ทั้งนี้ นายกฤษดา ยศถาวร หรือ ไก่ครกหลวง เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเปิดร้านก็ขายก๋วยเตี๋ยวในราคา 40 บาท ซึ่งในตอนแรกก็ขายดี แต่ในระยะหลังเกิดภาวะวิกฤตโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง ก็ทำให้ลูกค้าลดลง โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่มากินก็จะเป็นกลุ่มที่เข้าร่วมใครงการคนละครึ่ง แต่เมื่อหลายคนใช้คนละครึ่งหมด ลูกค้าก็เริ่มทะยอยหายลงไป ตนกับภรรยาจึงพูดคุยกัน และทางภรรยาก็มีแนวคิดว่า ให้ปรับลดราคาค่าก๋วยเตี๋ยวลงเป็นราคาถ้วยละ 20 บาท หากกลับบ้านก็เพิ่มอีก 5 บาท เป็นถุงละ 25 บาท ก็เท่ากับราคาที่ก่อนหน้านี้ลูกค้ากินในการใช้คนละครึ่ง อีกทั้งหากใครยังมีคนละครึ่งเหลืออยู่ก็สามารถใช้ได้ด้วย ทำให้ราคาก๋วยเตี๋ยวเหลือตกเพียงชามละประมาณ 10 บาท
สาเหตุที่ตนกับภรรยาทำเช่นนี้ก็เพราะสงสารคนที่ไม่มีงานทำ รวมไปถึงคนพิการ คนตกทุกข์ได้ยาก และคนเก็บขยะ ซึ่งหากใครไม่มีเงินมากิน หากมาหาตนที่ร้านตนก็พร้อมให้กินฟรี และเอาไว้ให้ผ่านพ้นภาวะวิกฤติโควิดไปตนค่อยกลับมาขายในราคาปกติ หรืออาจจะขายในราคานี้ต่อไป หากตนมีงบประมาณเพิ่ม ส่วนวัตถุดิบที่นำมาปรุงของร้านก็มีความสดใหม่ทุกวัน โดยจะเตรียมของจ่ายตลาดตอนกลางคืนและนำมาใช้ในตอนเช้า ส่วนลูกชิ้นหมูนั้นก็ทำเองโดยเตรียมไว้วันเว้นวัน อย่างไรก็ตามหลังกระแสข่าวออกไป ตนก็รู้สึกว่าร้านขายดีในราคา 40 บาท ตอนมีคนละครึ่ง แต่ตนเชื่อว่าหากมีคนทราบข่าวว่าร้านตนขายในราคา 20 บาท ก็น่าจะมีคนเพิ่มขึ้นอีก แต่ในเรื่องรายได้หรือกำไรนั้นตนก็ไม่ได้คาดหวังมากนัก ขอเพียงให้มีเงินพอจ่ายค่าจ้างลูกน้อง และค่าเช่าที่เปิดร้าน โดยไม่กระทบกับเงินส่วนตัวของตนเองแค่นี้ตนก็พอใจแล้ว
ร่วมแสดงความคิดเห็น