แจงเรียกเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืน ยายวัย 89 ถูกกรมบัญชีกลางเรียกคืนเบี้ยคนชรา ย้อนหลัง 10 ปี รวม 84,400 บาท เสนอให้ผ่อนชำระ 1 ปี ไม่มีดอกเบี้ย

จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับผู้สูงอายุ นางบวน โล่สุวรรณ อายุ 89 ปี ชาวบ้านใน ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ แจ้งว่า กรมบัญชีกลาง มีหนังสือเรียกเก็บเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืนรวมดอกเบี้ย เป็นเงินจำนวน 84,000 บาท เนื่องจากได้รับบำนาญ กรณีลูกชาย เป็นทหารเสียชีวิตจากเหตุคลังแสงระเบิด

นางนิโลบล แวววับศรี รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวชี้แจงว่า เนื่องจากหลักเกณฑ์ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ว่าจะต้องไม่เป็นผู้ได้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ซึ่งแต่เดิม องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เจริญสุข จ.บุรีรัมย์ เป็นผู้จ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้แก่ นางบวน โล่สุวรรณ ตลอดมา

ต่อมาในปี 2563 ได้มีการดำเนินการโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ผ่านระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม (e-social welfare) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจ่ายตรงเบี้ยชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ ระหว่างกรมบัญชีกลางและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.)
ดังนั้น เมื่อ อบต. มีหนังสือสอบถามกรมบัญชีกลางให้ตรวจสอบกับฐานข้อมูลผู้รับบำนาญ ว่าผู้สูงอายุรายดังกล่าวเป็นผู้รับบำนาญหรือไม่ กรมบัญชีกลาง ได้ตรวจสอบพบว่า เป็นผู้รับบำนาญพิเศษ พร้อมทั้งได้มีหนังสือตอบ อบต. แล้ว กรณีที่ได้รับเงินเบี้ยสูงอายุไปโดยไม่มีสิทธิ อบต. จะเรียกคืนเงินตามขั้นตอนและวิธีการที่ อบต. กำหนด ไม่ได้อยู่ในอำนาจของกรมบัญชีกลางที่จะดำเนินการได้ อย่างไรก็ดี กรมบัญชีกลางมีความห่วงใย และเข้าใจสถานการณ์ ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างมาก จึงได้มอบหมายคลังจังหวัดบุรีรัมย์ ประสาน อบต. เร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้สูงอายุรายดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

และเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2564 พลตรีภัชรพล ศิริรักษ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 (ผบ.มทบ.26) พร้อมด้วย พ.ต.อ.มานิตย์ สร้อยจิตร ผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ , นายธนศักดิ์ ปุ่น ประโคน ปลัดอำเภออาวุโสอ.เฉลิมพระเกียรติ, นายทินกร วรนุช นายก อบต.เจริญสุข, น.ส.ธสา ชินรัมย์ ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม อบต.เจริญสุข และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านสี่เหลี่ยม ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อประชุมหารือแนวทางในการช่วยเหลือยายบวน สืบเนื่องจาก จ.ส.อ.จักราวุทธ โล่ห์สุวรรณ ลูกชายของคุณยาย ซึ่งเป็นทหารสังกัด มทบ.21 นครราชสีมา เสียชีวิตจากเหตุการณ์คลังแสงระเบิดที่โคราช เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2544 คุณยายจึงได้รับเงินบำนาญเดือนละ 5,000 บาท ต่อมาประมาณเดือน พ.ค.2562 ทางรัฐได้เพิ่มวงเงินบำนาญกรณีพิเศษ เนื่องจากลูกชายยายเสียชีวิตจากเดือนละ 5,000 บาท เป็น 10,000 บาท แต่คุณยายไม่ทราบเพราะไม่ได้เช็กยอดเงิน ส่วนใหญ่จะให้ลูกหลานเป็นคนไปเบิกให้ ประกอบกับคุณยายยังมีเบี้ยคนพิการอีกเดือนละ 800 บาท

จากการพูดคุยเจ้าหน้าที่ได้เสนอให้คุณยาย และครอบครัวสามารถผ่อนชำระได้ โดยตามระเบียบที่กำหนดไว้คือ หากผ่อนชำระภายใน 1 ปี จะไม่มีดอกเบี้ย แต่ถ้าเกิน 1 ปี ตามระเบียบก็กำหนดไว้จะต้องคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้คุณยายนำเงินจากบำนาญพิเศษดังกล่าว ไปผ่อนชำระ หากจะผ่อนแบบไม่มีดอกเบี้ย ต้องผ่อนเฉลี่ยประมาณเดือนละ 7,030 บาท จำนวน 12 เดือน ซึ่งคุณยายขอปรึกษาหารือกับทางลูกหลานก่อน เพราะหากยายผ่อนเดือนละ 7,030 บาท จะเหลือเงินใช้จ่ายแค่ประมาณ 3,000 กว่าบาท หลังจากเจ้าหน้าที่มาชี้แจงทำความเข้าใจทั้งยาย และลูกสาว ก็เข้าใจระเบียบว่าจะต้องคืนเงิน แต่ด้วยความที่ฐานะยากจน และภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว จึงไม่มีเงินก้อนที่จะไปจ่ายคืน ทั้งนี้ ผบ.มทบ.26 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังได้ให้กำลังใจ และมอบสิ่งของช่วยเหลือยายในเบื้องต้นด้วย

นายทินกร วรนุช นายก อบต.เจริญสุข ระบุว่า หลังทราบเรื่องทาง อบต.ก็ไม่นิ่งนอนใจก็พยายามหาทางออกให้กับคุณยาย แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามระเบียบเพราะหากไม่ทำก็จะมีความผิดฐานละเว้น เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินแผ่นดิน แต่ยืนยันว่าจะหาแนวทางช่วยเหลือไม่ให้คุณยายต้องเดือดร้อน หรือได้รับผลกระทบต่อการดำรงชีวิต

ขอบคุณข้อมูล และภาพจาก : กรมบัญชีกลาง , ข่าวสด

ร่วมแสดงความคิดเห็น