ตร.ภาค 5 บุกรวบแกงค์มิจฉาชีพ ร่วมชาวใต้หวัน ส่งข้อความ (SMS) ลวงเหยื่อหลงเชื่อ เอาข้อมูลทางการเงินไปลงแอปพลิเคชั่น SCBEasy แล้วโอนเงินออกจากบัญชีธนาคาร

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ม.ค.64 ทาง เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตํารวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5) และเจ้าหน้าที่ตํารวจ บก.สส.ภ.5 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 ได้ร่วมกันจับกุมตัว ผู้ต้องหา 4 ราย ประกอบด้วย
(1)นายเป่าฉาง แซ่หลู่ สัญชาติไทย อายุ 23 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 214 หมู่ 5 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
(2)นาย ยู เชา เหว่ย (YU CHAO WEI) สัญชาติใต้หวัน อายุ 36 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 7 ต.เชียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
(3)นายวราวุธ ปามือ สัญชาติไทย อายุ 20 ปี
ที่อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 6 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
(4)นายพรสวรรค์ ไพรสีเขียว สัญชาติ ไทย อายุ 19 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 6 ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน
โดยทั้งหมดเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน ร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน,
ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ทางเจ้าหน้าที่ได้ทราบมาว่าปัจจุบันมีผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงเอาข้อมูลทางการเงินไปลงแอพพลิเคชั่น (SCB EASY) แล้วโอนเงิน ของผู้เสียหายออกจากบัญชีธนาคารเป็นจํานวนมาก จึงได้ทำการสืบสวนติดตามกลุ่มคนร้ายที่ได้ตระเวน ถอนเงินในพื้นที่ของตํารวจภูธรภาค 5 ซึ่งทาง ศปอส.ภ.5 ร่วมกับ สน.สายไหม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) ทําการสืบสวน ติดตามกลุ่มคนร้าย จนทราบพฤติการณ์ของคนร้าย กลุ่มนี้ว่ามีการส่งข้อความ (SMS) ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเข้าไปที่หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ซึ่งข้อความ ดังกล่าวจะมีจุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อว่าเป็นข้อความมาจากธนาคารไทยพาณิชย์และให้ ประชาชนกดเข้าไปเพื่ออัปเกรดแอพพลิเคชั่นโอนเงินออนไลน์ เมื่อผู้เสียหายกดเข้าไปที่ลิงค์จะปรากฏหน้า เว็บไซต์ที่มีลักษณะให้กรอกข้อมูลส่วนตัว, ข้อมูลทางการเงิน และรหัสผ่านแอพพลิเคชั่น

จากนั้นกลุ่มคนร้าย จะนําข้อมูลของผู้เสียหายไปทําการลงทะเบียนแอพพลิเคชั่น SCB Easy อีกอัน ระหว่างนั้นจะมีข้อความรหัส รักษาความปลอดภัย OTP ของธนาคารแจ้งไปยังเครื่องผู้เสียหาย เพื่อยืนยันว่าต้องการลงแอพพลิเคชั่นใหม่ หรือเพิ่มอีก 1 อัน ซึ่งหากผู้เสียหายไม่ได้อ่านข้อความหรือดูให้แน่ใจ หลงเชื่อนํารหัส OTP ดังกล่าวไปกรอก ที่หน้าเว็บไซต์ที่คนร้ายทําไว้ เพราะเข้าใจว่าเป็นกระบวนการอัปเกรดแอพพลิเคชั่นจริง จากนั้นคนร้ายจะ สามารถใช้แอพพลิเคชั่นบัญชีธนาคารของผู้เสียหายได้ พร้อมกับรู้รหัสแอพพลิเคชั่น SCB Easy ของผู้เสียหายทุกอย่าง และทําการโอนเงินของผู้เสียหายออกจากบัญชี เพื่อส่งต่อให้กับผู้ร่วมขบวนการคนอื่น ๆ ที่แบ่งหน้าที่กันทํา

ต่อมาจากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายในคดีนี้ คือ นายวราวุธ ปามือ อายุ 20 ปี และ นายพรสวรรค์ ไพรสีเขียว อายุ 19 ปี โดยทั้ง 2 คนอยู่ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน จากนั้น เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.63 เจ้าหน้าที่ ศปอส.ภ.5 ได้จับกุม นายวราวุธ ปามือ และวันที่ 23 ธ.ค.63 จับกุม นายพรสวรรค์ ไพรสีเขียว ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ตามหมายจับ และให้การรับสารภาพว่าเป็น เจ้าของบัญชีและทําหน้าที่ถอนเงิน โดยได้รับการชักชวนว่าจ้างจาก นายเป่าฉาง หรือเปา แซ่หลู่ ให้นําบัญชี ของตนมาใช้ในการรับโอนเงิน และทําหน้าที่กดเงินเท่านั้น

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อ จนทราบข้อมูลของผู้ว่าจ้างได้อีก 2 คน คือ นายเป่าฉาง แซ่หลู่ อายุ 23 ปี และ นาย ยู เชา เหว่ย (YU CHAO WEI) อายุ 36 ปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และต่อมา วันที่ 24 ม.ค.64 เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ ศปอส.ภ.5 ได้จับกุมผู้ต้องหา คือ นายเป่าฉาง แซ่หลู่ บริเวณวัดสันจองปาย หมู่ 8 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และเวลา 17.00 น. ได้จับกุม นาย ยู เชา เหว่ย (YU CHAO WEI) ได้ที่บริเวณถนนแม่มาลัย-ปาย ต.แม่มาลัย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

โดยหลังจับกุม นายเป่าฉาง ให้การรับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างจากนาย ยู เชา เหว่ย ให้จัดหา บัญชีธนาคารมารับโอนเงิน และหาคนถอนเงินสด เพื่อจะนําเงินมาให้ นาย ยู เชา เหว่ย โดยได้รับค่าจ้าง 10 % สว่นนายยูเชาเหว่ยให้การรับสารภาพว่าได้รับคําสั่งจากหัวหน้าชาวไต้หวันให้ประสานหาบัญชีธนาคาร และหาคนถอนเงิน เพื่อนําเงินส่งต่อกลับไปยังหัวหน้าชาวไต้หวัน ที่อยู่ประเทศไต้หวัน และนาย ยู เชา เหว่ย ได้รับค่าจ้าง 10 % จากเงินที่ถอนมาได้ โดยเริ่มทําตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.63 – ปัจจุบัน มีผู้เสียหาย ทั่วประเทศ จํานวน 21 ราย มูลค่าความเสียหาย ประมาณ 429,180 บาท ในส่วนของพื้นที่ ภ.5 มีผู้เสียหายร้องทุกข์ จํานวน 2 คดี คือ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ และ สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย ซึ่งทาง เจ้าหน้าที่ตํารวจจะได้ทําการขยายผลและดําเนินการออกหมายจับชาวบุคคลที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้จากการตรวจสอบ พบว่า นาย ยู เชา เหว่ย ยังมีความสัมพันธ์กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศ กัมพูชา เมื่อปี 2560 ซึ่งจะได้ตรวจสอบส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

อย่างไรก็ตามหลังการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด และการแถลงข่าว ทางด้าน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นครังนี้ อยากขอเตือนประชาชนให้ระวังการโทรศัพท์สอบถามรหัส OTP ของแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ โดยขอประชาสัมพันธ์ฝากสื่อมวลชนและประชาชนว่าสิ่งสําคัญของดิจิตอลแบงค์กิ้ง ประชาชนต้อง ไม่ควรให้รหัส OTP กับคนที่ไม่รู้จักหรือคนที่โทรมาถามทางโทรศัพท์ไม่ว่าจะอ้างเป็นผู้ใดก็แล้วแต่ ธนาคาร ทุกธนาคารไม่มีนโยบายที่จะขอ OTP ที่ส่งไปยังโทรศัพท์มือถือของท่าน

นอกจากนี้ ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นวันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ บัตรประจําตัวประชาชน หรือบัตรเครดิตลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบข้อความ หรือรูปภาพ และระมัดระวังการทําธุรกรรมเกี่ยวกับการเงินต่าง ๆ เช่น การกรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านทางเว็ปลิ้ง ที่อ้างเป็นธนาคาร และการมอบสมุดบัญชีพร้อมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ให้กับผู้อื่น หรือผู้ปล่อยเงินกู้ ตามเพจ ต่าง ๆ ที่ให้เงินกู้ออนไลน์ รวมถึงอย่าเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นใช้ หรือรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร อาจจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ เพราะจําถูกนําเอาบัญชีไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายได

 

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น