จ.เชียงใหม่ เปิดโอกาสให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วม ในการแก้ไขปัญหาไฟป่า โดยตั้งเป้าหมายลดจุดความร้อนลง 25%

จังหวัดเชียงใหม่ เปิดโอกาสให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วม ในการแก้ไขปัญหาไฟป่า โดยตั้งเป้าหมายลดจุดความร้อนลง 25% จากปีที่ผ่านมา พร้อมเตรียมการด้านการดูแลผู้ปฏิบัติภารกิจดับไฟ กรณีบาดเจ็บและเสียชีวิต เยียวยาสูงสุด 100,000 บาท

วานนี้ (26 ม.ค. 64) นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในการแถลงข่าวการบริหารจัดการไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ณ ร้านอาหารบ้านสวน หมู่ที่ 3 ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ถึงการดำเนินงานและความร่วมมือของทุกภาคส่วน ในการบริหารจัดการไฟป่าที่ได้ดำเนินการไปแล้วว่า ในปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ เน้นการให้ความสำคัญกับพื้นที่ตำบล หมู่บ้าน ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับฝ่ายปกครองท้องที่ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่ที่ เพื่อควบคุมพื้นที่ไม่ให้เกิดไฟ โดยได้มีการจัดทำแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิง การจัดทำแนวกันไฟ รวมถึงการจัดกองกำลังลาดตะเวนในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถลดจุดความร้อน (Hotspot) รวมถึงพื้นที่เสียหายจากการเผาไหม้ลง 25% จากปีที่ผ่านมา ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการติดตามสถานการณ์ทุกระยะอย่างใกล้ชิด ซึ่งสิ่งที่เป็นห่วงในขณะนี้คือสภาพภูมิอากาศ อันเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ จนส่งผลให้คุณภาพของอากาศไม่ดีเท่าที่ควร หรือส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งกรณีนี้ ก็ได้มีการนำข้อมูลเรื่องของภูมิอากาศมาบริหารจัดการ ในบริเวณแต่ละพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้นด้วย

ด้านนายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการเตรียมการด้านการดูแลผู้ปฏิบัติภารกิจดับไฟกรณีบาดเจ็บ/เสียชีวิต โดยมูลนิธิป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควัน จังหวัดเชียงใหม่ จะช่วยเหลือในกรณีที่เสียชีวิต รายละไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนในกรณีบาดเจ็บจะช่วยเหลือรายละไม่เกิน 10,000 บาท ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ก็ได้มีกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มอาสาดับไฟป่าเพื่อชาติ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2564 ถึง 10 พฤษภาคม 2564 โดยในกรณีเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุขณะเข้าปฏิบัติการดับไฟป่า รวมถึงอุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จะให้ความคุ้มครองเป็นจำนวนเงินเอาประกัน 100,000 บาท และจะได้รับการชดเชยรายได้ระหว่างการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในกรณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขณะเข้าปฏิบัติการดับไฟป่า (สูงสุดไม่เกิน 20 วัน) วันละ 200 บาท

นอกจากนี้ ยังมีการช่วยเหลือ จากคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้พิจารณาตามหลักมนุษยธรรม และหลักเกณฑ์แนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสถานการณ์อุทกภัย หรือวาตภัย หรือสาธารณภัย ที่ได้มีการประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติ หรือประกาศเป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน คณะกรรมการกองทุนฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้คือ กรณีเสียชีวิต จะจ่ายค่าจัดทำศพ รายละ 50,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวละ 30,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มีบุตรอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ อีกครอบครัวละ 50,000 บาท ส่วนกรณีบาดเจ็บ จะมอบเงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้บาดเจ็บสาหัส ครอบครัวละ 30,000 บาท และเงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้บาดเจ็บเล็กน้อย ครอบครัวละ 15,000 บาท

ร่วมแสดงความคิดเห็น