เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2564 ผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่จังหวัดเชียงใหม่มีการแชร์โพสต์เตือนภัยของกลุ่มนักวิ่งเทรลที่เข้าไปวิ่งออกกำลังในพื้นที่ดอยสุเทพ เนื่องจากเกิดเหตุคนร้ายทุบกระจกรถยนต์ของนักวิ่งเทรลรายหนึ่งและขโมยทรัพย์สินไป เหตุเกิดวานนี้ที่บริเวณทางเข้าน้ำตกวังบัวบาน ถนนทางขึ้นดอยสุเทพ ต.สุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่ ซึ่งมีผู้แชร์ต่อและแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “เตือนภัยชาวเทรล เมื่อวานมีน้องชาวเทรลจอดรถไว้ที่หน้าทางเข้าวังบัวบาน ก็จอดเหมือนจอดๆกันปกติ แต่พอกลับมาพบว่า รถถูกทุบกระจก ขโมยทรัพย์สินในรถไป เคยตะหงิดๆเหมือนกันว่าจริงๆตรงนั้นคือเปลี่ยว แม้รถจะจอดกันเยอะๆ แต่พวกเราก็หายไปกันเป็นครึ่งวัน คนเลวมันคงเห็นโอกาส มันก็เอาจนได้ แสดงความเสียใจและห่วงใยกับน้องที่ประสบเหตุนะครับ ดอยปิดพอดี ช่วงนี้คงไม่มีใครไปจอดแล้ว แต่ถ้าไม่ปิด คงต้องย้ายลงมาจอดหน้าครูบา หน้าตำรวจท่องเที่ยว แล้วขึ้นตั้งแต่ห้วยแก้ว น่าจะดีกว่า”
ทั้งนี้จากการตรวจสอบทราบว่าผู้เสียหายรายนี้ คือ นายธนวัฒน์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดขึ้นวานนี้(26ม.ค.64) โดยตัวเองที่เป็นนักวิ่งเทรลออกกำลังกาย ได้นัดกับกลุ่มนักวิ่งด้วยกันไปวิ่งในเส้นทางป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีการนัดเจอและจอดรถกันไว้ที่บริเวณทางเข้าน้ำตกวังบัวบาน ทางขึ้นดอยสุเทพ ซึ่งตัวเองไปถึงคนแรกตั้งแต่ประมาณ06.30น.และจอดรถไว้ด้านริมสุด จากนั้นเมื่อพร้อมแล้วได้ออกวิ่งและกลับมาในช่วงเย็นพบว่ารถยนต์กระบะสี่ประตูของตัวเองถูกทุบกระจกด้านหน้าข้างคนนั่ง และขโมยทรัพย์สินเป็นแท็บเล็ตไป พร้อมกระเป๋าที่มีเอกสารและบัตรต่างๆไป รวมทั้งต้องจ่ายค่าซ่อมรถเอง มูลค่าเสียหายรวมทั้งสิ้นประมาณ 10,000บาท ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ เข้าแจ้งความแล้วที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ติดตามหาตัวคนร้าย
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าตกใจมากและไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นในพื้นที่ที่มองว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัย เพราะที่ผ่านมาเคยมาวิ่งแล้วและปกติก็มีคนวิ่งเป็นประจำ แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีเหตุเช่นนี้ขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกเหมือนกันว่าเพิ่งเคยเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากให้กรณีของตัวเองเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยให้กับทุกคนระมัดระวัง โดยเฉพาะนักวิ่งที่จะเข้าไปวิ่งในพื้นที่ดอยสุเทพหรือที่ใดๆก็ตามว่าให้ระวังและดูแลทรัพย์สินมีค่าให้ดี เพราะอาจเกิดเหตุได้เสมอ เนื่องจากคนร้ายน่าจะจ้องและฉวยโอกาสก่อเหตุอยู่แล้ว
ขณะเดียวกันแนะนำว่าในการเข้าไปวิ่งออกกำลังกายในพื้นที่อุทยานฯ นั้น ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนทุกครั้ง เพื่อที่ว่าเจ้าหน้าที่จะได้เก็บข้อมูลและสามารถดำเนินการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้น สำหรับการติดตามคนร้ายรายนี้นั้น เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนได้เบาะแส ว่าคนร้ายมีการ เปิดใช้งานเครื่องแท็บเล็ต และ GPS ระบุตำแหน่งอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานและติดตามหาตัวให้ได้โดยเร็ว
ร่วมแสดงความคิดเห็น