จังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ และความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างมาก ตั้งแต่คนพื้นเมือง คนต่างจังหวัด หรือแม้แต่ชาวต่างชาติ จะสามารถพบเห็นได้โดยทั่วไปในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้ตัวเมืองมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และเปิดกว้างต่อการแสดงออกหรือรับวัฒนธรรมต่างๆ
ตลอดจนสภาพภูมิศาสตร์ของจังหวัดเชียงใหม่ที่ใครหลายคนชื่นชอบ คือความเป็นล้านนาที่คงกลิ่นอายแห่งรากฐานทางสังคม ผนวกกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป อันมีเทคโนโลยีเข้ามาส่งเสริมให้จังหวัดเชียงใหม่ มีครบทุกมิติของคำว่า “เมือง” หรือ CITY ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากแทบทุกมุมเมือง สามารถมองเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติ ของดอยหรือเทือกเขา อีกทั้งในใจกลางเมือง เช่นบริเวณของคูเมือง แม้ว่าจะมองเห็นตึกรามบ้านช่อง โรงแรมต่างๆ หรือร้านกาแฟและคาเฟ่สมัยใหม่นับไม่ถ้วน แต่ตัวเมืองก็ยังคงกลิ่นอายทางอารยธรรม และวัฒนธรรมล้านนา ผ่านทางวิถีชีวิตของผู้คน และสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ประตูเมืองและกำแพงเมืองโบราณที่คงไว้ ผ่านหูผ่านตามาหลายต่อหลายรุ่น จนเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่อยู่ในความทรงจำของทั้งคนเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยว สิ่งเหล่านี้เป็นเสน่ห์ทางสังคมที่เมืองเชียงใหม่ คงไว้เสมอมาจากอดีต จนถึงปัจจุบัน
และการที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ “ศิลปะ” เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในตัวเมืองที่มีความหลากหลาย มีสถานที่อันทำให้เกิดแรงบันดาลใจและการเรียนรู้มากมาย จนทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอันดับต้นๆของประเทศ แต่ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ที่ถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขา จึงทำให้เชียงใหม่ในยุคหลังๆ ต้องเผชิญกับปัญหาสำคัญ และทำลายคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ไม่น้อย ซึ่งยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่จังหวัดเชียงใหม่ ต้องเผชิญกับปัญหาดังกล่าว นั่นคือ “มลพิษ” และ “ฝุ่นPM 2.5”
ด้วยความเข้าใจถึงปัญหาข้างต้น และความหลงไหลในเสน่ห์ของเมืองเชียงใหม่ ทำให้ Converse(คอนเวิร์ส) ผู้ผลิตแบรนด์รองเท้าชั้นนำ ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม และมีเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นให้แบรนด์รองเท้าของบริษัท ทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาที่ชาวเชียงใหม่และทุกคนที่ต้องการแก้ปัญหามลพิษในเมืองเชียงใหม่ นำเอาไอเดียช่วยลดมลพิษ ส่งผ่านศิลปะ และได้ประโยชน์ของแหล่งท่องเที่ยวให้กับจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านศิลปะชิ้นนี้ ให้เกิดถนนที่รู้จักกันในคำเรียกที่ว่า “ Street Art” (สตรีทอาร์ท) โดยมีคอนเซ็ปต์ที่ช่วยผนวกเอาความคิด และฝีมือของ คนรุ่นใหม่ ซึ่งได้ตัวแทนจากนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 9 คน เข้าร่วมแสดงฝีมือ และเอกลักษณ์ทางความคิด ผ่านผลงานศิลปะสำคัญนี้ด้วย
เชียงใหม่นิวส์ จะพาไปเที่ยวเมืองเชียงใหม่ในมุมมองของโปรเจค “Converse City Forests” ป่าในเมือง (คอนเวิร์ส ซิตี้ ฟอรเรสท์) โดย Converse ได้ร่วมกับ คุณแพร์รี่พาย เมคอัพอาร์ททิสต์ที่มากความสามารถ ทั้งด้านแฟชั่น การแต่งหน้า และบิวตี้บล็อกเกอร์ชั้นนำที่ร่วมอนุรักษ์ผ้าไทย ผ่านแฟชั่นในยุคสมัยใหม่ มาร่วมสร้างสรรค์ผลงาน และนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์มช.ทั้ง 9 คน (ญาณศิริ พุ่มขจร,พิมพ์ศิริ พิมสวสดิ์,ปณิฐา ใจยี่,พริษฐ์ ทนันชัย,ทัพพน บัวไชโย,ฐิติกรณ์ มูลลิ,กันตพงศ์ ปี่แก้ว,วิวิธวินท์ ตั้งคำ,กีรติ เทศแก้ว) ผ่านคอนเซ็ปต์ “ล้านนาในยุคโลกาภิวัฒน์” อันเป็นผลงานศิลปะที่ถ่ายทอดเรื่องราว มุมมองของคนรุ่นใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
ซึ่งผลงานศิลปะนี้นอกจากความสวยงาม และคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ถ่ายทอดลงบนฝีแปรงหลอมรวมกับฝีมือและการรังสรรค์ผลงานศิลปะจากฝีมือและความคิดสร้างสรรค์แล้ว กำแพงศิลปะนี้ ยังมีบทบาทสำคัญที่จะทำหน้าที่ดูดซับมลพิษให้กับตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ โดยภาพวาดผลงานบนกำแพงนี้ จะมีขนาด 6 x 2.8 เมตร และมีประสิทธิภาพช่วยดูดซับมลพิษในอากาศเทียบเท่าต้นไม้ประมาณ 15 ต้น! ด้วยเทคนิคการใช้สีชนิดพิเศษในการวาด ซึ่งป็นสีที่มีคุณสมบัติดูดซับมลพิษในอากาศ ช่วยลดไนโตรเจนออกไซด์จากหมอกควันบนท้องถนนเปรียบเสมือนกับต้นไม้ที่ดูซับมลพิษทางอากาศให้กับโลกของเรา ผลงานศิลปะบนกำแพงนี้ จึงเปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้ ให้กับเมืองเชียงใหม่ ไปพร้อมๆกับสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ และทำให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวที่เข้ากันได้กับค่านิยมและวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ และชื่นชมผลงานศิลปะได้พร้อมกันๆ
ผลงานภาพวาดบนกำแพง จะดึงเอกลักษณ์ ของตัวเมืองเชียงใหม่ สะท้อนถึงวิถีชีวิต ที่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเชียงใหม่หรือล้านนา ผสมผสานกับยุคสมัยใหม่ โดยสื่อผ่านรากฐานความเชื่อดั้งเดิมที่คนเชียงใหม่ มีความเชื่อในเรื่องของผีสางอันทำให้เกิดความเคารพต่อธรรมชาติ และสถานที่ โดยที่ศิลปินจะทำการใส่คาแรคเตอร์ของตัวเองลงในผลงานส่วนที่ได้รับผิดชอบ ซึ่งแบ่งเป็นพื้นที่สถานที่โดดเด่นของเชียงใหม่ เช่น ประตูท่าแพ ขัวเหล็ก หรือดอยสุเทพ และตัวอย่างของยุคโลกาภิวัฒน์ที่แสดงออกผ่านผลงานศิลปะนี้ เช่น ชนเผ่ากะเหรี่ยง ที่สวมชุดชนเผ่าอันเป็นอัตตลักษณ์ดั้งเดิม แต่ถือแก้วชานมไข่มุก ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่
ผลงานศิลปะบนกำแพงจาก โปรเจค Converse City Forests นี้ สามารถตามไปชมของจริงได้ที่ สะพานขัวเหล็ก ซึ่งแต่เดิมเป็น สะพานนวรัฐจำลอง ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ และปัจจุบันยังคงเป็นสถานที่ยอดนิยมที่ให้คนหลายต่อหลายรุ่น นิยมขึ้นไปแวะถ่ายภาพ ลั่นชัตเตอร์กันบ่อยครั้ง
ซึ่งสตรีทอาร์ตจากโครงการ Converse City Forests โดย Converse นี้ จะถูกรังสรรค์และถ่ายทอดอย่างเป็นระบบระเบียบ ผ่านการลงลึกศึกษาข้อมูลจากวิถีชีวิต และฝีมือของศิลปินในท้องถิ่น โดยเลือกทำเลในการสร้างสรรค์ผลงาน ที่ง่ายต่อการมองเห็น เพราะ Converse ตั้งใจให้ผลงานศิลปะนี้ เป็นสิ่งแสดงถึงความเจริญของสังคม ด้วยการใช้ผลงานศิลปะ เป็นเสมือนสะพานที่เชื่อมโยงผู้คนและสังคมในแต่ละยุคสมัยเข้าด้วยกัน
ผลงานศิลปะสตรีทอาร์ทบนกำแพงนี้ เป็นความตั้งใจของ Converse ที่แสดงเจตนารมณ์จะปลูกต้นไม้ให้ได้ มากกว่า 3,000 ต้น ทั่วโลก ในเมืองต่างๆ ด้วยผลงานศิลปะที่ใช้สีดูดซับมลพิษได้นี้ ให้ช่วยดูดซับมลพิษทางอากาศในสถานที่ต่างๆ ซึ่งได้เริ่มผลงานแรก ใน จังหวัดกรุงเทพมหานครฯ เมืองหลวงของประเทศไทย อีกทั้งยังได้ขยายศิลปะที่มีคุณค่านี้ ไปยังเมืองใหญ่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ซิดนีย์ ออสเตรเรีย, มะนิลา ฟิลิปปินส์,จาร์กาตา อินโดนีเซีย ,วอร์ซอ โปแลนด์,เซาท์เปาโล โปรตุเกส และอีกหลายเมืองทั่วโลก ดูโครงการที่อื่นๆทั่วโลกได้ที่นี่ www.conversecityforests.com
เช่นเดียวกันนี้ Converse กับ โครงการดีๆ อย่าง Converse city forests ได้ปลูกต้นไม้ให้เมืองเชียงใหม่แล้วในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่ทำให้เห็นถึงคุณค่าของเมือง สถานที่ เอกลักษณ์วัฒนธรรม วิถีชีวิต ไปพร้อมกันกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยผลงานศิลปะบนกำแพงที่ทำให้สตรีทอาร์ตมีคุณค่า ลบภาพความคิดด้านลบที่มีต่อสตรีทอาร์ตว่าทำลายสิ่งแวดล้อมจากการใช้สีเสปรย์พ่น เปลี่ยนมาใช้สีดูดซับมลพิษได้ อันเป็นโครงการแห่งอนาคตที่ดีต่อทุกคน ทุกด้าน สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ Converse ที่ตั้งใจสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์รองเท้าจากวัสดุรีไซเคิล ให้คุณได้สวมใส่รองเท้าที่มีเอกลักษณ์ และ รักษ์โลก ไปพร้อมๆกัน
#ConverseCityForests
เรียบเรียงโดย : เชียงใหม่นิวส์
ร่วมแสดงความคิดเห็น