(มีคลิป) เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เก็บซากนกเป็ดน้ำส่งตรวจสอบ หลังพบตายเกลื่อนทุ่งนา ด้านตำรวจเรียกตัวคนเช่านาสอบสวน เบื้องต้นยอมรับใส่ยาฆ่าหญ้าคลุมเลนในนา ไม่มีเจตนาฆ่านก

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 64 เวลา 09.00 น. นายอำนวย ศรีแสงฤทธิ์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายปิยะ หนูนิล ผอ. สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง นายสุชล ไชยศิริ ปศุสัตว์อำเภอเมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร กองสาธารณสุข เทศบาลเมืองเขลางค์นคร อสม. ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ทุ่งนาภายหมู่บ้านคันทรีวิว ต.ปงแสนทอง อ.เมืองลำปาง จุดที่พบนำเป็ดน้ำ หรือเป็ดแดง นอนตายเกลื่อนเกือบ 100 ตัว เพื่อนำซากไปทำการตรวจสอบหาสาเหตุการตาย นอกจากนั้น บริเวณทุ่งนาโดยรอบ ยังพบว่ามีนกชนิดอื่นๆ ตายเช่นกัน แต่จำนวนไม่มากนัก ซึ่งอาจเกิดจากการบินลงมากินน้ำในทุ่งนาเช่นกัน


โดยเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ ได้เก็บซากนก ตัวอย่างดิน ส่งทำการตรวจสอบ ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคเหนือตอนบน จ.ลำปาง ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 ลำปาง ได้เก็บซากนก ตัวอย่างดิน และตัวอย่างน้ำลายนกที่เปื้อนดิน ในพื้นที่โดยรอบรัศมี 500 เมตร ส่งตรวจที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชอีกทางหนึ่ง เนื่องจากนกเป็ดน้ำ เป็นสัตว์สงวนใกล้สูญพันธุ์ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ในหมวดคุ้มครองประเภท 3 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง ซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากของสัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต


ส่วนซากนกที่เหลือ เจ้าหน้าที่ได้ขุดหลุมฝังกลบ พร้อมฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคโดยรอบหลุมฝังกลบ เพื่อเป็นการป้องกัน
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ขอให้ชาวบ้านติดต่อผู้เช่าที่นาดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง เนื่องจากเกรงว่าหากเกิดโรคระบาดทำให้นกตายจะเกิดปัญหาตามมาอีกมาก แต่หากเกิดจากสาเหตุของยาฆ่าแมลง หรือยาฆ่าหญ้าก็จะสามารถควบคุมพื้นที่ได้ ซึ่งต่อมาไม่นานได้มี นาย ก (นามสมมติ) ผู้เช่าที่นาผืนดังกล่าว เข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ จากการสอบถาม นาย ก ได้ยอมรับว่า ตนเองเช่าพื้นที่นี้ทำนาปลูกข้าวมา 5 ปีแล้ว ที่ผ่านมาได้มีการฉีดยาฆ่าหญ้า แต่ก็ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านในปีนี้ จึงได้เปลี่ยนวิธีการใหม่ ด้วยการซื้อยาฆ่าหญ้าคลุมเลนยี่ห้อหนึ่ง นำมาโรยในนาข้าว เพื่อไม่ให้หญ้าขึ้นมาปกคลุมต้นกล้าข้าวที่ลงไว้ โดยจ้างคนทำนาด้วยกันมาโรยยาฆ่าหญ้าให้ จากนั้นตนเองก็ไม่ได้เข้ามาดูที่นาอีก เพราะต้องทำงานประจำ ผ่านไป 2-3 วัน มีคนโทรมาแจ้งว่ามีนกตายในนา คาดว่านกคงจะลงมากินน้ำในนาและกินสารเคมีเข้าไป ตนก็ไม่ทราบว่ายาฆ่าหญ้าจะทำให้นกตาย เพียงแต่ต้องการกำจัดหญ้าในนาเท่านั้น แต่เหตุที่ไม่ได้เข้ามาดูเพราะว่าติดปัญหาทางบ้านนิดหน่อย กระทั่งเจ้าหน้าที่เรียกตัวมาในครั้งนี้


ด้านนายปิยะ หนูนิล ผอ.สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 ลำปาง กล่าวว่า นกเป็ดน้ำเป็นสัตว์สงวนที่ใกล้สูญพันธุ์ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 หากครอบครองจะต้องมีความผิดอยู่แล้ว ซึ่งกรณีนี้จะต้องดูเจตนากันว่าทางผู้เช่าทำนา มีเจตนาตั้งใจหรือไม่ตั้งใจอย่างไร เข้าใจว่าการทำนาโดยใช้ยาฆ่าหญ้าก็เป็นวิถีของชาวนาที่ทำกัน ดังนั้น ต้องอยู่ที่สำนวนการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ทาง พ.ต.ท.อนันท์ เข็มขำ สว.(สอบสวน) สภ.เขลางค์นคร ได้ให้นาย ก ไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น