รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ ตำรวจกองปราบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. และ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ทลายเครือข่ายขายยาทำแท้งเถื่อน ในจ.เชียงใหม่ หลังพบมีการโพสต์ขายออนไลน์ ลุยค้น 10 จุด รวบ 7 ผู้ต้องหา
พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. นำกำลัง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นำหมายจับศาลอาญาที่ 318/2564 เข้าจับกุมนางสาวไพลิน แซ่หว่อง อายุ 33 ปี ในห้องพักภายในคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งย่านถนนห้วยแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังมีหลักฐานว่านางสาวไพลินกับพวกร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาตและยังมีการโฆษณาขายยาโดยทำให้เข้าใจว่าเป็นยาทำให้แท้งลูกผ่านช่องทางต่าง ๆ
จากการตรวจค้นภายในห้องพักพบกล่องที่ใช้บรรจุสินค้าจำนวนหนึ่ง ส่วนยาที่ลักลอบขายนางสาวไพลินให้การว่าได้เก็บไว้ที่ห้องพักหมายเลข 402 หอพักเอ็มโพเรียม ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้น พบยาแผนปัจจุบันหลายยี่ห้อที่มีการแกะเม็ดยาออกจากแผงและแผงยาที่ยังไม่ได้แกะ รวม 47 แผง ซองซิปสำหรับบรรจุยา 700 ซอง ซองกันกระแทก 1,150 แผ่น กล่องสำหรับส่งพัสดุไปรษณีย์ 9 กล่อง ตราสัญลักษณ์ร้านค้า 3 ตรา จึงตรวจยึดเป็นของกลาง
จากการสอบสวนนางสาวไพลิน รับสารภาพว่า สั่งซื้อยามาจากต่างประเทศ แผงละ 10 เม็ด ในราคาแผงละ 2,500 นำมาแกะแผงแบ่งขายเม็ดละ 500 บาท โดยใช้ช่องทางออนไลน์ขายทุกวัน เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อจะจ้างให้คนไปส่งพัสดุไปรษณีย์ให้กับลูกค้า
วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังกระจายกำลังออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาร่วมเครือข่าย ตามหมายจับศาลอาญาในจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งหมด 6 จุด ในท้องที่ อ.เมือง และ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหาร่วมเครือข่ายได้อีก 4 คน คือ นายทักษ์ดนัย ปัญญาละ อายุ 26 ปี พร้อมของกลางเป็นสำเนาใบเสร็จส่งพัสดุไปรษณีย์ 46 ฉบับ , นางสาวศิรินภา คำบาง อายุ 34 ปี , นางสาวคุณัญญา บานเย็นงาม อายุ 34 ปี และ นางธัญพร แซ่โค้ว อายุ 45 ปี
นอกจากนี้ยังขยายผลขนายผลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร กาญจนบุรี และ นนทบุรี จับกุมผู้ต้องหาร่วมเครือข่ายได้อีก 2 คน รายงานระบุว่า เครือข่ายลอบขายยาทำแท้งเถื่อนรายนี้เป็นเครือข่ายใหญ่ที่มีการลักลอบจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ มีลูกค้าสั่งซื้อหลายจังหวัดทั่วประเทศ มีนางสาวไพลินเป็นผู้สั่งซื้อยามาแบ่งขาย และ ว่าจ้างให้นายทักษ์ดนัยเป็นผู้ส่งสินค้า ให้เงินเดือนละ 10,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามพฤติกรรมมานานกว่า 1 ปี พบว่ามีลูกค้าสั่งซื่อจำนวนมากทุกวัน มีบางวันยอดขายสูงสุดถึง 5 หมื่นบาท
ขณะที่นายทักษ์ดนัยซึ่งเป็นผู้ส่ง อ้างว่าไม่ทราบว่าในกล่องพัสดุเป็นอะไร ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือมีพฤติกรรมเป็นแอดมินโฆษณาขายยาผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งเป็นเอเยนต์รับยาไปขายต่อ
หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันขายยาที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา , ร่วมกันโฆษณาขายยาโดยทำให้เข้าใจว่าเป็นยาทำให้แท้งลูกหรือยาขับระดูอย่างแรง , ร่วมกันโฆษณาขายยาทางวิทยุกระจายเสียง เครื่องขยายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ทางฉายภาพหรือภาพยนตร์หรือทางสิ่งพิมพ์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนขยายผลไปถึงแหล่งที่มาของยาและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น