(มีคลิป) ฟัง-ดูชัดๆ หลักฐานตัดสิทธิ์ “ชานนท์” ผู้ชิงนายกฯ ทม.แม่เหียะ ถือหุ้นสื่อ เตรียมชี้แจง กกต.ใน 3 วัน

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวคืบหน้า กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำเทศบาลเมืองแม่เหียะ (กกต.ประจำ ทม.แม่เหียะ) ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่มี นายอุดม กาญจนประโชติ ประธาน กกต.ประจำ ทม.แม่เหียะ, นายธัชชัย โกมลรัตน์ กรรมการฯ ร่วมประชุมกับ กกต.ประจำ ทม.แม่เหียะ แล้วแจ้งรายชื่อผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติในการลงรับสมัครรับเลือกตั้ง นายก ทม.แม่เหียะ และ ส.ท. ที่รับสมัครไปเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา

ทม.แม่เหียะ มีหน่วยเลือกตั้ง 29 หน่วย ผู้สมัคร ส.ท. 3 เขต รวม 37 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 15,565 คน มีผู้สมัครนายกเทศมนตรี จำนวน 2 คน เบอร์ 1 นายชานนธ์ ประมวญพิสุทธิ์ ในนามกลุ่มเพื่อไทยเมืองแม่เหียะ ส่วนเบอร์ 2 นายธนวัฒน์ ยอดใจ ในนามหัวหน้าทีมแม่เหียะเพื่อประชาชน เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เช่นกัน

นายชานนธ์ ผู้สมัคร นายกฯ ทม.แม่เหียะ ถูกตัดสิทธิ์ โดย กกต.ประจำ ทม.แม่เหียะ ตัดสิทธิ์ดังกล่าวไปเมื่อวานนี้พร้อมผู้สมัคร ส.ท.จำนวน 2 ราย หลังจากประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงสมัคร และไม่รับสมัครแล้ว ได้ให้ จนท.ทม.แม่เหียะ นำรายชื่อและภาพถ่ายขึ้นป้ายกระดานประกาศทันที ติดตั้งตามเขตเลือกตั้งต่างๆ ทั่วเมืองแม่เหียะ จำนวน 29 หน่วยไปแล้ว เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา

กกต.ประจำ ทม.เมืองแม่เหียะ แจ้งเหตุผลที่ไม่รับสมัคร เบอร์ 1 โดยตัดสิทธิ์ไม่รับสมัคร นายชานนธ์ ประมวลพิสุทธิ์ เพราะเข้าข่ายลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 50 อนุ 3 คือถือหุ้นสื่อ ของบริษัท กฏหมาย ที ไอ พี จำกัด จดทะเบียนเมื่อ พ.ศ.2541 ครั้งนั้น นายชานนธ์ ใช้ชื่อว่า นายชำนาญ ประมวญพิสุทธิ์ (ต่อมาเปลี่ยนชื่อมาเป็น นายชานนธ์) เป็นผู้ถือหุ้นคนที่ 5 ของบริษัทดังกล่าว ซึ่งตามวัตถุประสงค์ทั่วไปของการตั้งบริษัท คือ ปรึกษากฏหมาย ประกอบธุรกิจค้าขาย ทำโรงงานและโรงพิมพ์ ซึ่งในข้อที่ 19 ระบุว่า ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์

ส่วนผู้สมัคร ส.ท.ซึ่งทาง กกต.ประจำ ทม.แม่เหียะ ไม่รับสมัคร จำนวน 2 คน มีนายสมนึก ปันทะนา ผู้สมัคร ส.ท. เขต 1 หมายเลข 12 ทีมแม่เหียะเพื่อประชาชน(กลุ่มเดียวกับ นายธนวัฒน์ ผู้สมัคร นายกฯ เบอร์ 2) กกต.ไม่รับสมัคร สาเหตุเพราะพบหลักฐานเอกสารถือหุ้นสื่อ คนที่ 3 (ถือหุ้นบริษัทเดียวกันกับ นายชานนท์ ผู้สมัคร นายกฯ เบอร์ 1) และอีก 1 คน คือนายองค์อาจ แก้วโขง ผู้สมัคร ส.ท. เขต 3 หมายเลข 4 กลุ่มเพื่อไทยแม่เหียะ(ลงสมัครกลุ่มเดียวกันกับ นายชานนธ์ ) กกต.ไม่รับสมัครเพราะไม่ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง นายกฯและ ส.อบจ.ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาล่าสุด ถือว่าขาดคุณสมบัติไปเลย อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกตัดสิทธิ์ทั้ง 3 คน สามารถไปยื่นเรื่องเพื่อขออุทธรณ์เรื่องดังกล่าวกับ กกต.จังหวัด ภายใน 3 วัน หาก กกต.วินิจฉัยตัดสิทธิ ช่องหมายเลขผู้สมัครดังกล่าว ก็ว่างเว้นไป ผู้ใช้สิทธิไม่สามารถลงคะแนนได้ ถ้าลงคะแนนให้ถือเป็นบัตรเสียทันที

การตัดสิทธิ์ไม่รับสมัคร นายชานนท์ และนายสมนึก เพราะบุคคลทั้งสองได้ถือหุ้นประกอบกิจการสื่อ ในนามบริษัทกฏหมาย ที.ไอ.ที จำกัด ปี 2541 ดังกล่าว มีกรณีตัวอย่าง ศาลพิจารณาคดีแล้วพบความผิดในลักษณะนี้มีมากกว่า 10 กรณี เช่น การวินิจฉัยศาลฏีกา ที่ 1706/2562 มีคำสั่งถอนชื่อผู้สมัคร ส.ส.รายหนึ่ง ที่ จ.สกลนคร ฐานเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามดังกล่าว ตามคำสั่ง ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ศาลฏีกา คดีเลือกตั้ง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ขอให้ถอนชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขต)

 

 

การวินิจฉัยศาลฏีกา ที่ 1706/2562 มี ผอ.กกต.เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.สกลนคร ผู้ร้อง และมี ผู้สมัคร ส.ส.ท่านหนึ่ง เป็นผู้คัดค้าง ซึ่งได้อ้างต่อศาลว่า “เป็นเพียงแบบวัตถุประสงค์สำเร็จรูปแนบคำขอจดทะเบียนเท่านั้น” แต่ คำสั่งศาลฏีการะบุว่า หากถือหุ้นสื่อมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนอยู่แล้ว ตามเอกสารการขอจดทะเบียนประกอบธุรกิจ ต้องยืนยันตามเอกสารนั้น คือไม่ให้ผู้สมัครถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ดังนั้นผู้คัดค้าน จึงเป็นบุคคลอันมีลักษณะต้องห้ามไม่ให้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จึงมีคำสั่งถอนชื่อผู้สมัคร ส.ส.ท่านนั้น ที่เป็นผู้คัดค้าน นำรายชื่อออกจากการประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.สกลนคร ซึ่งข้อกฏหมายกรณีตัวอย่างใช้ได้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นด้วย

ผู้สื่อข่าวติดต่อประสานทางทีมงานของนายชานนธ์ ประมวญพิสุทธิ์ หลังจากที่ถูก กกต.ประจำ ทม.แม่เหียะ ตัดสิทธิ์และไม่รับสมัครให้ลงชิงตำแหน่ง นายก ทม.แม่เหียะ ไปเมื่อวันที่ 19 ก.พ.นั้น ได้คำตอบจากทีมงานว่า ในวันที่ 22 ก.พ.2564 ที่จะถึงนี้ จะนำหลักฐานเอกสารต่างๆกรณีที่ถือหุ้น บริษัทกฏหมาย ที.ไอ.ที จำกัด ไปยืนต่อ กกต.เพื่อชี้แจงเหตุผลว่า การประกอบธุรกิจของบริษัททำเพียงปรึกษาด้านกฏหมาย ไม่ได้มีหลักฐานในการมีรายได้จากการผลิตสื่อแต่อย่างใด ซึ่งวันที่ 22 ก.พ.2564 จะเชิญสื่อมวลชนชี้แจงเรื่องนี้ด้วย

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น