สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เตรียมจับมือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยกระดับเกษตรกรสู่ความเป็นมืออาชีพ

ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) พร้อมนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือ “การพัฒนากำลังคนด้านการเกษตรสู่มืออาชีพด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ” ณ ห้องประชุม 112 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันในการยกระดับกำลังคนด้านเกษตรของไทยด้วยเทคโนโลยีเป็นเกษตรสมัยใหม่ สู่เกษตรอุตสาหกรรม

ดร.นพดล ระบุว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) พร้อมให้การสนับสนุนทุกช่องทางในการพัฒนาทักษะให้กับเกษตรกรและผู้ที่อยู่ในอาชีพเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรมพัฒนาสมรรถนะการทำงานอย่างมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล ทั้งการจัดอบรมแบบเข้าถึงพื้นที่ และการจัดอบรมออนไลน์ที่ตอบโจทย์สถานการณ์โลกปัจจุบัน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ สามารถนำระบบการฝึกอบรมออนไลน์ของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (TPQI E-Training) ไปเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการฝึกอบรมให้เกษตรกรทั่วประเทศ ผ่านศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center : AIC) ที่มีอยู่ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศได้อีกช่องทางด้วย

นอกจากนี้ สคช. พร้อมสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรเข้าสู่การประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อรับการการันตีเป็นมืออาชีพโดยหน่วยงานภาครัฐ เบื้องต้น สคช. ได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ และคนในอาชีพ จัดทำมาตรฐานอาชีพด้านการเกษตรแล้วกว่า 90 อาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเพาะปลูก การแปรรูป เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรกรปราดเปรื่อง รวมทั้งเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตร และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ สคช. ยังพร้อมสนับสนุนช่องทางการตลาด และโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ สคข. มีความร่วมมือกับธนาคารออมสิน SME D Bank และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ที่พร้อมพิจารณาสินเชื่อเพื่อมืออาชีพ

ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาส และศักยภาพในการทำงานที่สอดรับนโยบายปฏิรูปเกษตรด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมและการตลาดสมัยใหม่ บนฐานเศรษฐกิจพอเพียงและเศรษฐกิจ 4.0 และการยกระดับภาคเกษตรให้เป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญเพื่อการบริโภคของคนไทยและก้าวสู่การเป็นครัวโลก ซึ่งจะเป็นการพัฒนาด้านการเกษตรได้อย่างยั่งยืน
ด้านนายอลงกรณ์ ระบุว่าการจะทำให้เกษตรกรไทยก้าวสู่การเป็นฐานรากการผลิตอาหารของโลก จำเป็นต้องสร้าสงเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิต และบริหารจัดการพื้นที่การเกษตร จะทำให้พัฒนาผลผลิตได้อย่างมีคุณภาพ ตรงความต้องการของตลาด ที่สำคัญในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 สินค้าเกษตรจำนวนมากไม่สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ ทำให้กระทรวงเกษตรฯ ได้พัฒนานำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการเกษตร ปรับปรุงคุณภาพผลผลิต โดยเฉพาะนวัตกรรม AgriTech หรือการเกษตรสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อน ตั้งแต่การเพาะปลูก ไปจนถึงเก็บเกี่ยว และแปรรูป ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ สคช. ทำ ซึ่งเชื่อมั่นว่าหากมีความร่วมมือและบูรณาการการทำงานร่วมกันก็จะช่วยให้เกษตรกรไทยประสบความสำเร็จได้ และพร้อมรับทุกวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ร่วมแสดงความคิดเห็น