(มีคลิป) กรณีตำรวจลักปืนสงครามในคลัง สภ.เสาหิน ส่วนแยก ที่ สภ.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน คาดมีกลุ่มขบวนการมากกว่า 2 คน

เมื่อ เวลา 12.00 น. วันที่ 25 ก.พ. 64 แหล่งข่าวระบุว่า สำหรับอาวุธปืนที่หายไป ถูกนำไปขายที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา พื้นที่บ้านห้วยทราย ตรงข้ามช่องทางบ้านเสาหิน โดยมีหัวหน้าชนกลุ่มน้อยรายหนึ่ง อดีตเป็นสมาชิกกลุ่มดาวแดง KNPLF เป็นผู้รับซื้อ ต่อมาหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่รัฐของไทย ทราบว่ามีอาวุธปืนหายไปจากคลัง จึงได้มีการส่งคนไปเจรจาเพื่อขอคืนอาวุธ แต่ก็สามารถนำมาคืนได้เป็นบางส่วนเท่านั้น อาวุธส่วนที่ไม่ได้คืน ได้ถูกส่งไปให้ สมาชิกของอดีตผู้นำดาวแดงคนดังกล่าว เพื่อใช้ป้องกันทีมงาน เนื่องจากปัจจุบัน ชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่มในพื้นที่ ได้มีการเคลื่อนไหวกำลัง เพื่อผลักดันทหารพม่าออกจากเขตรับผิดชอบของชนกลุ่มน้อย

ส่วนกรณีที่ รอง ผบ.ตร. ( พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ ) จะเดินทางมาสอบสวนคดีดังกล่าว ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.แม่ฮ่องสอน พบว่า คำสั่งได้ถูกยกเลิก และ พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผบก.ภ.จ.แม่ฮ่องสอน ได้เดินทางไปประชุมร่วมกับ ผบช.ภ.5 ที่เชียงใหม่

ที่ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ. 5 เปิดเผยว่า คดีนี้สั่งการให้ตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะกลุ่มขบวนการที่เชื่อมโยงกัน แม้ว่าตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหา จะรับสารภาพว่าทำคนเดียว ตอนนี้เรายังไม่ปักใจเชื่อ จะต้องมีการสอบสวนอย่างละเอียดว่า มีใครอยู่เบื้องหลังสนับสนุนบ้าง ในส่วนการดำเนินคดีตอนนี้ ก็ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ให้ออกจากราชการไว้แล้ว

จากการติดติตามความคืบหน้า กรณีปืนในคลังอาวุธ สภ.เสาหิน ถูกดาบตำรวจลักส่งขายชายแดนเสาหิน ณ ที่ทำการ สภ.เสาหิน ส่วนแยก อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุดังกล่าว ในตลอดช่วงของวันนี้เจ้าหน้าที่ สภ.เสาหิน ได้ทำการตรวจนับอาวุธปืน เครื่องกระสุน สิ่งของทั้งหมดภายในคลังอาวุธอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ามีอะไรที่ยังคงอยู่ มีอะไรที่หายไป และ ได้อะไรกลับคืนมาบ้าง โดยปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้จุดที่เกิดเหตุเป็นอาคารปูน 2 ชั้น ดัดแปลงเป็นห้องสำนักงาน ซึ่งมี ส่วนแยกของ สภ.เสาหิน อ.แม่สะเรียง และ สภ.กองก๋อย อ.สบเมย เปิดเป็นห้องธุรการไว้ประสานงานต่างๆ โดยห้องคลังอาวุธปืนของ สภ.เสาหิน อยู่บริเวณชั้น 2 ของอาคารสำนักงาน โดยเจ้าหน้าที่ ระบุว่าไม่สามารถให้ข้อมูลข่าวสารใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาการ ส่วนผู้ต้องหา ด.ต.สันติชัย ลือราช เจ้าหน้าที่ฝากขังไว้ศาล จ.แม่สะเรียง ทั้งนี้ ด.ต.สันติชัย นั้นมีพฤติกรรมชอบเสพยาบ้า และชอบเล่นเวปพนันออนไลน์ ทำให้เกิดปัญหาด้านการเงิน

ก่อนหน้านั้น จากรายงานของ จนท.สภ.เสาหิน ทราบว่า เมื่อ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลาประมาณ 17.00 น. ได้รับแจ้งจาก ตามประจำวันเกี่ยวกับคดีข้อที่ 3 ลงวันที่ 22 ก.พ.2564 เวลา 16.49 น. ความแจ้งแล้วนั้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้สืบสวนจนทราบว่า มีผู้พฤติการณ์ต้องสงสัยคือ ด.ต.สันติชัย ลือราช จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำและได้ยอมรับสารภาพว่า โดยได้นำอาวุธปืนของกลางลำดับที่ 1 และ 2 มามอบให้คืน ซึ่งได้ตรวจสอบแล้วตรงตามที่หายไป จึงได้ทำการตรวจยึด และขยายผล ด.ต.สันติชัยฯ ในเวลาต่อมายังได้นำ ของกลางลำดับที่ 3 และ 4 มามอบคืนให้ในเวลาต่อมา และรับว่า อาวุธปืนส่วนที่เหลือได้ให้ นายสมชาย หรือทู รัตนไพรวัลย์ อายุ 24 ปี เลขบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ หมู่ 1 ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ไปขายที่ชายแดนไทย-พม่า บริเวณช่องทางบ้านเสาหิน ต.เสาหินฯ ซึ่งจะได้ประสานดำเนินการต่อไป

ระหว่างควบคุมตัว ด.ต.สันติชัยฯ มีอาการคล้ายคนเสพยาเสพติด เจ้าหน้าที่ฯจึงได้ขออนุญาตทำการตรวจปัสสาวะและได้ทำการตรวจปัสสาวะ โดยใช้เอกสารมอบหมายฯ แบบ 2 เลขที่ 44/2560 ส่วนราชการ ภ.จ.แม่ฮ่องสอน ของ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ ถาทวี ประกอบการตรวจ ซึ่ง ด.ต.สันติชัยฯทราบและเข้าใจดี พร้อมยินยอมให้ตรวจโดยไม่มีเงื่อนไข โดยใช้ชุดทดสอบสารเมทแอมเฟตามีนฯในปัสสาวะ เบื้องต้นผล ปรากฏว่า ผลเป็นบวก (พบเมทแอมเฟตามีนฯ ในปัสสาวะ) ด.ต.สันติชัยฯ ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้สารเสพติดดังกล่าวมาจริง ต่อมาเจ้าหน้าที่ฯได้นำตัวอย่างปัสสาวะของ ด.ต.สันติชัยฯ ส่งตรวจยืนยันผลที่โรงพยาบาลแม่สะเรียง และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 (เชียงใหม่) ซึ่งผลการตรวจของโรงพยาบาลแม่สะเรียง แพทย์ลงความเห็นว่า พบสารเสพติด (เมทแอมเฟตามีนฯ) ในปัสสาวะ เจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเป็นการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และ พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ โดยการกล่าวหาว่า

  1. มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
  2. ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในสถานที่ราชการ โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆหรือรับของโจร
  3. ทำให้เสียทรัพย์
  4. เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ฯจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาข้างต้นให้ ด.ต.สันติชัยฯ ทราบและแจ้งว่าเขาต้องถูกจับ และสั่งให้ ด.ต.สันติชัยฯ ไปที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ ที่ถูกจับพร้อมด้วยผู้จับ โดย ด.ต.สันติชัยฯ ได้รับทราบข้อกล่าวหาและพฤติการณ์ข้างต้นดีแล้ว ให้การ “รับสารภาพ” ตลอดทุกข้อกล่าวหา โดยยังให้ถ้อยคำอื่นอีกว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กองก๋อย ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ให้มาประจำอยู่ส่วนแยก (สภ.กองก๋อย) เพื่อประสานข้อราชการ และได้พักอาศัยอยู่ในที่ทำการส่วนแยก สภ.กองก๋อย ซึ่งอยู่ติดกับ ส่วนแยก สภ.เสาหิน โดยช่วงเวลา 1-2 เดือนที่ผ่านมา ตนได้ประสบปัญหาขัดสนเรื่องเงิน ค่าใช้จ่าย และครอบครัว จึงเข้าไปลักอาวุธปืนของกลางไปจำนำไว้ตามที่ต่างๆ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ฯ ที่ดูแลรักษาอาวุธปืนตรวจพบ และได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ตนทราบจึงได้นำอาวุธปืนของกลางมามอบคืน จนกระทั่งถูกจับกุม ส่วนยาเสพติดที่นำมาเสพนั้น ได้มีชาวเขาได้นำมาแบ่งให้เสพขณะที่ตนขึ้นไปเที่ยว

จากนั้น เจ้าหน้าที่ฯได้ส่งตัว ด.ต.สันติชัยฯ พร้อมของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และเมื่อไปถึงที่ทำการของพนักงานสอบสวนแล้ว เจ้าหน้าที่ฯ ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ ด.ต.สันติชัยฯ ทราบอีกครั้ง พร้อมทั้งได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุแห่งการจับให้ ด.ต.สันติชัยฯ ทราบและเข้าใจดีแล้ว จึงได้มอบสำเนาบันทึกการจับกุมให้ ด.ต.สันติชัยฯ จำนวน 1 ฉบับ

อนึ่ง ในการจับกุม/ตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฯได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ทุกประการ ไม่ได้ทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ บังคับ ขู่เข็ญ หลอกลวง ทรมาน ใช้กำลังบังคับ หรือกระทำโดยมิชอบประการใด ๆ ไม่ได้เรียก รับ ยอมรับว่าจะรับ ทำลาย ทำให้เสียหาย สูญหายหรือเสื่อมค่าหรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่นด้วยประการใด ๆ แต่อย่างใด

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น