ตัวแทนกลุ่ม save บางกลอย ยื่นหนังสือถึงรัฐบาล ผ่าน ผวจ.เชียงใหม่ พร้อมเดินทางไปร่วมกิจกรรมที่ลานประตูท่าแพ ในตอนเย็นวันนี้ (25 ก.พ. 2564)

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 25 ก.พ. 64 ,ตัวแทนกลุ่ม save บางกลอย โดยมี นาย พฤ โอโด่เชา พร้อมด้วยพวกจำนวน 100 คน ได้รวมตัวกันบริเวณสวนหลวง ร.9 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมกับมีป้ายเขียนข้อความต่าง ๆ เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวกะเหรี่ยงบางกอย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบตัวเมื่อ 2 วันก่อน จากนั้นกลุ่ม ฯ ได้เดินทางไปยังศาลากลางเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐบาลโดยผ่าน ผวจ.เชียงใหม่ โดยใช้เส้นทางถนนโชตนา

ต่อมาเวลา 14.45 นายศรัณยู มีทองคำ รอง ผวจ.เชียงใหม่ ลงมารับหนังสือจาก ภาคี save บางกลอย โดยมีนาย พฤ โอโด่เชา ตัวแทนของภาคีเป็คคนยื่น โดยเนื้อหาของหนังสือคือ “ภาคี SAVE บางกลอย แถลงการณ์ ทวงคืนความเป็นคน คืนสิทธิบรรพชนให้ใจแผ่นดิน

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 – 16 กุมภาพันธ์ 2564 ราษฎรชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอย – ใจแผ่นดิน และภาคี #SAVE บางกลอย ได้ปักหลักติดตามการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล บริเวณทำเนียบรัฐบาล และได้ทำบันทึกข้อตกลงการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปะอาชา, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ รองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของพีมูฟ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า, ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์, อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช นายธัญญา เนติธรรมกุล, ผู้แทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม นายจำนงค์ หนูพันธ์, ผู้แทนภาคี #SAVE บางกลอย นายณัฐวุฒิ อุปปะ และตัวแทนชุมชนบางกลอย-ใจแผ่นดิน นายพงค์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ตามบันทึกข้อตกลง

1. ถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออกจากชุมชนบางกลอยทั้งหมด
2. หยุดการสกัดการขนส่งเสบียง รวมถึงการตั้งจุดสกัดเดิม และที่จุดเพิ่มเติมขึ้นมาทั้งหมด
3. ยุติคดีของสมาชิก ภาคี #save บางกลอย ทั้งหมด 10 คน กรณีการยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีกระทรวง

ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 แต่เนื่องจากสถานการณ์เรียกได้ว่า รัฐบาล และส่วนที่เกี่ยวข้อง ต่อการแก้ไขปัญหาของบางกลอยได้ตระบัดสัตย์ไม่ทำตามบันทึกข้อตกลง จากกรณีวันที่ 22 – 24 กุมภาพันธ์ 2564 ได้มีชุด ที่เรียกว่า ยุทธ์การพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร ที่เป็นการสนธิกำลังหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทัพพญาเสือ เจ้าหน้าที่ ตชด. 114 ฝ่ายปกครอง สภ.แก่งกระจาน เจ้าหน้าที่อุทยานสัตว์ป่า และพันธ์ุพืช ได้เข้าไปเพื่อคุกคาม กดดัน และพยายามที่จะใช้ความรุนแรง กับชาวบ้านที่กลับขึ้นยังใจแผ่นดิน จำนวน 36 ครอบครัว และได้กดดันให้ชาวบ้านลงมาแล้ว จำนวน 13 คน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ทางเครือข่าย อีกทั้ง กรณีวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ได้มีตัวแทนจากชาวเลย์ราไว ได้นำข้าวสารอาหารแห้ง เข้าไปสบทบให้พี่น้องบางกลอยที่กลับไปยังใจแผ่นดินได้ยังชีพ จนได้เจรจากับด่านจุดสกัดห้วยมะเร็ว และเจ้ าหน้าที่แค่อนุญาตให้เข้าไปเพียง 1 ชั่วโมง #ภาคี SAVE บางกลอย เห็นว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่พยายามที่จะละเมิดข้อตกลงร่วมกัน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 นั้นแปลว่าบันทึกข้อตกลงไม่ได้รับการตอบสนองต่อเจ้าหน้าที่ในระดับพื้นที่ และไม่เกิดความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องบางกลอยได้อย่างแท้จริง ดังนั้นนาม #ภาคี SAVE บางกลอย จึงมีข้อเสนอไปยังนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ดังนี้

  1. ให้ชาวบ้านที่ประสงค์กลับไปทำไร่หมุนเวียน และดำรงค์วิถีชีวิตวัฒนธรรมดั้งเดิมอยู่ที่บ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน สามารถกลับขึ้นไปอยู่อาศัย ทำกินและดำรงค์ชีวิตตามวิถีดั้งเดิมของบรรพบุรุษ ได้โดยการรับรองสิทธิในการอยู่อาศัยและที่ทำกินในพื้นทีชุมชนดั้งเดิม และให้หน่วยงานรัฐและส่วนที่เกี่ยวข้อง ศึกษาระบบการทำไร่หมุนเวียน และยอมรับวิถีการทำไร่หมุนแบบดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยง
  2. ให้ยุติการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปตั้งจุดตรวจ ด่านห้วยมะเร็ว และชุดลาดตระเวนในหมู่บ้านบางกลอยล่าง ที่พยายามจะเข้าไปคุกคาม อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงยุติการข่มขู่คุกคาม หรือใช้ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นกับชาวบ้าน 36 ครอบครัว ที่กลับไปอยู่อาศัย และทำกินอยู่ที่บ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน
  3. ให้ยุติการขัดขวางการส่งข้าวอาหาร และสิ่งของจำเป็นไปให้กับชาวบ้านบางกลอยบน
  4. ให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตาม มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 3 สิงหาคม 2553 ว่าด้วยแนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชีวติชาวกะเหรี่ยงโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะมาตรการด้านการยุติ การจับกุม ดำเนินคดี และการคุมครองพื้นที่เกษตรกรรมในรูปแบบไร่หมุนเวียน
  5. ในกรณีที่ชาวบ้านครอบครัวใด ประสงค์จะอยู่ที่บ้านบางกลอยล่าง ให้รัฐดำเนินจัดสรรที่ดินทั้งที่ดินอยู่อาศัยและที่ทำกินให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ เพื่อให้สามารถดำเนินวิถีชีวิตได้อย่างมั่นคง
  6. รัฐบาลต้องยุติการดำเนินการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่รัฐ ในการตั้งจุดสกัดเดินลาดตระเวน และตรวจค้น สร้างแรงกดดัน และความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านบางกลอย และมีมาตรการในการคุมครองสวัสดิภาพ และความปลอดภัยของสมาชิกชุมชนบางกลอยทุกคน

ตามข้อเสนอถ้ายังไม่มีรับการตอบรับหรือการดำเนินการ ที่จะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของ กลุ่ม#ภาคี SAVE บางกลอย ภายใน 15 วัน กลุ่ม#ภาคี SAVE บางกลอย จะยกระดับการเคลื่อนไหวทั่วประเทศ เพื่อไปติดตามข้อเรียกร้อง ณ ทำเนียบรัฐบาล

เชื่อมั่น และศรัทธาในพลังประชาชนชาติพันธ์ุก็คือคน โดยหลังจากนี้ภาคีเครือข่าย #save บางกลอย จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมที่ลานประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ โดยกิจกรรมจะเริ่มขึ้นในเวลา 17.00 น.เป็นต้นไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น