เตือนปีนี้แล้งหนัก น้ำปิงเริ่มแห้งขอด แนะร่วมมือใช้น้ำประหยัด

สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ รายงานสถานการร์น้ำล่าสุดวันนี้ว่า ปริมาณน้ำในอ่างขนาดใหญ่ทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมทั้งสิ้น 38,580 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)ใช้การได้ราวๆ 15,025 ล้าน ลบ.ม.หรือ 32 % เฉพาะภาคเหนือ มีน้ำใช้การได้เพียง ร้อยละ 21


อย่างไรก็ตาม รายงานสรุปสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายหลัก และสาขาในเขตรับผิดชอบ สำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง เฉพาะแม่น้ำปิง ตรงจุดตรวจวัดน้ำอยู่ที่พี 1 สะพานนวรัฐ ระดับ 3.7 ม. สอดรับกับ
รายงานสถานีสำรวจอุทกวิทยาลุ่มน้ำภาคเหนือตอนบน ระบุระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักลดลงมาก บางสายแห้งขอด แม้กระทั่งลำน้ำปิงก็มีระดับน้ำที่เหลือน้อย เพราะไม่มีน้ำไหลเข้ามาเติม


ด้าน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จ.เชียงใหม่ เกิดปัญหาคุณภาพน้ำเน่าเสียใน คลองแม่ข่าอย่างรุนแรง ซึ่งคลองแม่ข่าเป็นหนึ่งในไชยมงคลเจ็ดประการ ของการเลือกพื้นที่สร้างเมืองเชียงใหม่ โดยพญามังราย เมื่อ 725 ปีก่อน จ.เชียงใหม่ จึงได้ร่วมมือกับส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่าย จิตอาสาวางมาตรการการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าอย่างเป็นระบบ ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่สำคัญคือ มาตรการในการจัดหาแหล่งน้ำต้นทุนสนับสนุนคลองแม่ข่า โดยมีกรมชลประทานเป็นเจ้าภาพหลัก


นายจรินทร์ คงศรีเจริญ ผอ.โครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2564 นี้ โครงการชลประทาน
เชียงใหม่ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ 18 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างแก้มลิงภายในศูนย์ฝึก ร.ด.มทบ.33 ความจุเก็บกัก ประมาณ 400,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค และสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ราชการ/ชุมชนใกล้เคียงโดยรอบ รวมทั้งเป็นแหล่งน้ำดิบสนับสนุนการผลิตน้ำประปา ปัจจุบันงานก่อสร้างแก้มลิงคืบหน้า ร้อยละ 30 คาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนในดือน ก.ย. 2564 นี้

ทั้งนี้กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งเตือนว่า เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้น่าห่วง ประชาชนโดย
เฉพาะกลุ่มเกษตรกร ควรปฏิบัติตามแผนงานบริหารจัดการน้ำ ในแต่ละพื้นที่ ชลประทานและนอกเขต ชลประทานเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น จากความเสียหายของพืชผลที่จะขาดแคลนน้ำ
ขณะเดียวกันต้องใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ประหยัดตามมาตรการที่มีการประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือจากชลประทาน
แต่ละพื้นที่ด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น