“สังคมดาว ข่าว 25 น.” วันที่ 27 กุมภาพันธ์  2564

วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปเร็ว เดือนกุมภาพันธ์ จะอำลาไปกับ เดือนแห่งความรัก ที่หมุนเวียนเปลี่ยนเข้ามา เดือนแห่งความร้อน ที่จะก้าวเข้ามา เดือนมีนาคม ปีนี้จะร้อนอบอ้าวแค่ไหน คนไทยทนได้ ขอแค่ร้อนปีนี้เราร่วมมือกัน ระวังไฟป่า และอย่าไปจุดเผาเศษวัสดุ-ฟางหญ้าต่างๆ ทำให้เกิด หมอกควันไฟ….มาปกคลุมเมือง…..

เข้าร้อน ระวังไฟไหม้ป่า

ทราบข่าวเศร้าส่งท้าย เดือนแห่งความรัก ก็แสดงความเสียใจไปถึง “เสี่ยอิ๋ว” สงวน ลิ้มเล็งเลิศ กรรมการผู้จัดการ โตโยต้าล้านนา ที่ได้สูญเสียกับการจากไปของ คุณแม่สุรภี ลิ้มเล็งเลิศ ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่ วัดสวนดอก และในวันที่ 1 มีนาคม จะมีพิธี รดน้ำศพ และจะสวดพระอภิธรรม ไปถึงคืนที่ 5 มีนาคม เที่ยงวันที่ 6 มีนาคม….เคลื่อนศพสู่สุสานข่วงสิงห์…….

พิธีงานศพ คุณแม่สุรภี ลิ้มเล็งเลิศ

ครบรอบวันเกิดปีนี้ของ “เฮียไก่” สายัณห์ ชนะ กรรมการผู้จัดการ ชนะศิลป์มอเตอร์ ในปีนี้ถือศีลกินน้ำเต้าหู้ งดสุราเมรัย เพราะว่าไปตรงกับวันสำคัญ วันมาฆบูชา บรรดาเพื่อนๆ คนคุ้นเคยทั้งหลายบอก เมาย้อนหลังก็ได้ เพราะมิตรสหายอยากร้องเพลง แฮบปี้เบิร์ธเดย์…..ให้เฮียไก่ที่เคารพรัก…..

เสี่ยไก่-สายัณห์ ชนะ

ทุกๆ ปีที่เวียนมาถึง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ บรรดาลูกๆ หลานๆ และข้าเก่าเต่าเลี้ยงของ คุณพ่อ พล.ต.ต.สง่า กิตติขจร จะร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศล ที่คุณพ่อได้จากไป ด้วยพระคุณความเมตตาที่ท่านได้ชุบเลี้ยงมา “บิ๊กตั้ม” ปราโมทย์ สมัครการ- “ทัดดาว” จะทำบุญให้คุณพ่อท่านในเช้าวันนี้ ที่วัดยางกวง…..ย่านกาดก้อม…..

คุณพ่อ พล.ต.สง่า กิจติขจร
บิ๊กตั้ม-ปราโมทย์ สมัครการ

รุ่งขึ้นอีกวันเหมือนเช่น 7 ปีที่ผ่านมา “ทัดดาว” จะไปจัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้ เด็กๆ วัดดอนจั่น เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ “คุณเก๋” สุจินดา ศักดิ์สูง อดีตคู่ชีวิตที่ได้จากไป สืบสานงานเลี้ยงเด็กๆ…..ครั้งเมื่อมีชีวิตอยู่……

ทำบุญเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กๆ วัดดอนจั่น

คงได้เดินสายกลับไป แผ่นดินถิ่นเกิด เหมือนเช่นทุกๆ ปีที่ “ทัดดาว” ต้องไปร่วมพิธี บวงสรวงพ่อขุนงำเมือง ในพิธีนี้จัดขึ้นวันที่ 5 มีนาคม โดยมี เจ้าราษี ณ ลำปาง ได้เชิญชวน เจ้านายฝ่ายเหนือ และบุตรหลานเจ้า จะจัดขึ้นที่อนุสาวรีย์ด้านหน้า น้ำกว๊านเมืองพะเยา ในปีนี้เริ่มพิธี 7 โมงเช้า งดริ้วขบวนจากทุกอำเภอ…..เพราะโรคโควิดระบาด…..

เจ้าราษี ณ ลำปาง

อยู่บนถนนเส้นนี้มาอย่างยาวนาน ชื่อเสียงรู้จักกันดี ชีวิน พับร็อค คงย่ำถนนเส้นนี้ต่อไปด้วยการ เปิดร้านอาหารเปิงใจล้ำ ผู้ใหญ่ในวงการ “ป๋าปึ้ด” บรรดิษฐ์ คมศาสตรา-จุรีย์ วงศ์ไชย และผองเพื่อนที่เคยร่วมวงกันมา “เต่ย” วีระศักดิ์ ขัติยะ ไปร่วมแสดงความยินดี ขอให้ยืนหยัดสู้ต่อไป…..บนถนนสายบันเทิง……

ผู้ใหญ่และเพื่อนๆ ไปร่วมยินดีกับ ชีวินพับร็อค เปิดร้านเปิงใจ๋ล้ำ

ปรึกษาหารือกับเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการ ป๋าภราดร มนตรีกุล ณ อยุธยา คาดหมายเอาว่าเข้าร้อนปีนี้ โรคโควิดคงซา เพื่อเป็นการพลิกฟื้นในด้านการท่องเที่ยว เมืองเชียงใหม่ จึงจะรื้อฟื้นจัดใหญ่ เชียงใหม่ไบค์วิค จะเป็นการรวมตัวของ นักบิดทั่วไทย เพียงแต่ว่าในการจัดครั้งนี้ที่ ไม่ได้บิดโต้หนาว…..แต่เป็นการบิดฝ่าลมร้อน…..

อาโกภราดร มนตรีกุล ณ อยุธยา

สรงน้ำพระธาตุดอยตุง…….

ประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2564 ครบรอบ “2003 ปีสืบมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง”

เมื่อวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ กรมสมเด็จเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสรงพระธาตุดอยตุง และผ้าไตรพระราชทาน ในโอกาสถวายสักการะครบรอบ “2003 ปี สืบมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” เนื่องในประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี พ.ศ.2564

โดยนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานนำข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พุทธสมาคมจังหวัดเชียงราย ผู้บริหารสถานศึกษาและนักเรียนนักศึกษา และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดเชียงรายทั้ง 18 อำเภอ ตลอดทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ เข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง เพื่อประกอบพิธีบวงสรวงพระธาตุดอยตุง บูชาด้วยการเดินขบวนแห่รัตนสัตตนัง ซึ่งประกอบด้วยขบวนอัญเชิญน้ำสรง และผ้าไตรพระราชทาน ขบวนเครื่องสักการะหลวง 9 อย่าง ได้แก่ 1.ผ้าห่มพระธาตุ 2.ภัตตาหารเจ 3.ตุงใจ 4.ช้าคู่ 5.พัดจามร 6.สุ่มหมาก 7.สุ่มปู 8.ต้นผึ้ง 9.น้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ เคลื่อนขบวนสู่ลานพระธาตุดอยตุง

จากนั้น นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เริ่มประกอบพิธีการ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ก่อนจะประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะ โดยมี พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง นำพุทธศาสนิก ชนกล่าวคำไหว้องค์พระบรมธาตุดอยตุง และสรงน้ำสรงพระราชทาน พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ลั่นฆ้องชัย 9 ครั้ง ต่อด้วยพิธีถวายผ้าไตรพระราชทานแด่พระสงฆ์ โดยมี พระรัตนมุนี ผศ.ดร.เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย กล่าวสัมโมทนีย กถา และให้พรแก่ผู้เข้าร่วมพิธี พร้อมสดับรับพรโดยทั่วกัน ก่อนจะเริ่มการห่มผ้าพระธาตุดอยตุง และปิดท้ายด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนา สร้างความประทับใจ ความตื่นตาอลังการ์และความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้เข้าร่วมงานโดยทั่วหน้าเป็นอย่างยิ่ง

วัดพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง ปรากฎเป็นชื่อตามจารึกหินอ่อนที่กรอบประตูพระอุโบสถ คำเมือง: LN-Wat Phra That Doi Tung.png) หรือเรียกโดยทั่วไปว่า วัดพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่บริเวณส่วนที่เรียกว่าหน้าอกของดอยนางนอน ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวไทยภูเขา ซึ่งดอยตุงมีระยะทางห่างจากอำเภอเมืองเชียงราย ประมาณ 46 กิโลเมตร และมีพระธาตุดอยตุงประดิษฐานอยู่บนยอดดอย สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล เนื่องจากพระธาตุดอยตุงตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 2 พันเมตร

“วัดพระธาตุดอยตุง ” อำเภอแม่จัน เป็นสถานที่ประดิษฐานพระเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย หรือกระดูกไหปลาร้า ซึ่งนำมาจากประเทศอินเดีย ดังมีตำนานกล่าวไว้ว่า เมื่อ 1,000 กว่าปีล่วงมาแล้ว ประมาณ พ.ศ. 1454 พระมหากัสสปะเถระ พร้อมด้วย พระเข้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองเมืองโยนกนาคพันธ์ ร่วมกับข้าราชบริพารได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสถิตไว้ ณ ดอยแห่งนี้ และได้ปักตุงหรือธงบูชาพระบรมสารีริกธาตุ เป็นตุงตะขาบมีความยาวถึง 1 พันวา ปักไว้บนยอดดอยปล่อยชายตุงปลิวสะบัดถึงที่ใด ให้หมายเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ดอยนี้ จึงได้ชื่อว่าดอยตุงมาจนถึงปัจจุบันนี้ พระธาตุดอยตุงเป็นปฐมเจดีย์แห่งล้านนา ตุง คือศรีเมือง ขวัญเมือง และเป็นเอกลักษณ์ของล้านนา สถิตคู่พระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ตลอดมา ต่อมาในปี พ.ศ. 2470 ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้บูรณะองค์พระธาตุขึ้นใหม่ ตามศิลปะแบบล้านนาดั้งเดิม และได้สร้างพระธาตุองค์ใหม่ครอบองค์เดิมไว้

ประวัติความเป็นมาของวัดพระธาตุดอยตุง วัดพระมหาชินธาตุเจ้า (ดอยตุง) หรือเรียกโดยทั่วไปว่า วัดพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่บริเวณส่วนที่เรียกว่าหน้าอกของดอยนางนอน ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวเขา ซึ่งดอยตุงมีระยะทางจากอำเภอเมืองเชียงราย ประมาณ 46 กม. และมีพระธาตุดอยตุงประดิษฐานอยู่บนยอดดอย มองเห็นได้ในระยะไกล เนื่องจากะรธาตุดอยตุงตั้งอยู่สูงกว่าระดับน่ำทะเลประมาณ 2พันเมตร

ตามตำนานเล่าว่า พระธาตุดอยตุงสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองนครโยนกพันธุ์ (ปัจจุบันคืออำเภอแม่จัน) พระมหากัสสปะได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) แล้วมอบให้แก่ พระเจ้าอชุตราช ได้สร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุนั้นไว้บนดอยแห่งนี้ ดังที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ แล้วจึงได้ให้ทำตุง (ธง) มีความยาว 1,000 วา ปักไว้บนยอดเขา หากตุงปลิวไปถึงที่ใด ก็กำหนดมห้เป็นฐานของพระเจดีย์ ทั้งนี้พระองค์ได้พระราชทานทองคำให้พวกลาวจกเป็นค่าที่ดิน และให้พวกปีลักยู 500 ครอบครัว ดูแลรักษาพระธาตุ ต่อมาในสมัยพญามังรายแห่งราชวงศ์มังราย พระมหาวชิรโพธฺเถระได้นำพระบรมสารีริกธาตุมาถวาย 50 องค์ พญามังรายจึงให้สร้างพระเจดีย์อีกองค์ใกล้กับเจดีย์องค์เดิม นับจากนั้นเป็นต้นมา พระธาตุดอยตุงจึงได้มีเจดีย์ 2 องค์ มาจนถึงทุกวันนี้

รูปแบบสถาปัตยกรรม พระธาตุดอยตุงแต่เดิมมีองค์เดียว รูปแบบก่อเป็นศิลปะเชียงแสนย่อมุมไม้ 12 คล้ายกับพระธาตุดอยสุเทพ เมืองเชียงรายสมัยก่อนเป็นเมืองร้างอยู่หลายครา พระธาตุดอยตุงจึงขาดการบูรณะปฏิสังขรณ์ ตัวพระธาตุทรุดโทรมและพังทลายลง นับตั้งแต่พญามังรายได้สร้างเจดีน์อีกองค์ใกล้กัน อีกองค์หนี่งจึงทำให้พระธาตุดอยตุงมี 2 องค์ ปัจจุบันพระธาตุเป็นสีกองขนาดเล็ก 2 องค์ สูงประมาณ 5 เมตร บนฐานสี่เหลี่ยมย่อมุม มีซุ้มจระนำสี่ทิศ อยู่บนดอยสูงแวดล้อมด้วยป่ารกคลื้ม เรียกว่า สวนเทพารักษ์ เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2470 องค์พระธาตุทรุดโทรมมาก ครูบาเจ้าศรีวิชัย กับประชาชนเมื่องเชียงรายได้บูรณะขึ้นใหม่ โดยสร้างเป็นเจดีย์องค์ระฆังขนาดเล็ก 2 องค์ บนฐานแปดเหลื่ยม ตามศิลปะแบบล้านนา การบูรณะครั้งหลังสุด มีขั้นเมื่อปี พ.ศ. 2516 โดยกระทรวงมหาดไทย ได้สร้างพระธาตุองค์ใหม่ขึ้นครอบพระเจดีย์เดิมไว้


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย 26/02/64

ทัดดาว

ร่วมแสดงความคิดเห็น