วันที่ 3 มี.ค.64 ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ต้องได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ หมอกควันจากการเผาป่าปกคลุมหนาทึบไปทั่วทั้งเมือง ทัศนวิสัยการมองเห็นตามท้องถนนลดลง คุณภาพอากาศอยู่ในขั้นวิกฤตหนักสุดในรอบสัปดาห์ โดยในเวลา 12.00 น. ค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 รายชั่วโมง บริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ วัดได้ที่ 102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่เหลืออีก 3 สถานีตรวจวัดในเขตตัวเมือง เกินค่ามาตรฐานทุกจุดเฉลี่ยที่ 80-100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ในเวลาเวปไซต์ AirVisual รายงานคุณภาพอากาศในเวลา 11.00 น. จังหวัดเชียงใหม่มีอากาศย่ำแย่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจากเมืองลาฮอร์ ปากีสถาน และ กรุงเดลี ประเทศอินเดีย
พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เผยสถานการณ์ไฟป่า 17 จังหวัดภาคเหนือ เช้าวันนี้พบจุดความร้อนจำนวน 928 จุด เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์จำนวน 555 จุด พื้นที่ป่าสงวนฯ จำนวน 350 จุด
ขณะเดียวกันในห้วงวันที่ 2 – 6 มี.ค.64 กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดแผนการลาดตระเวนของกำลังชุดลาดตระเวน 6 ชุดปฏิบัติการ จำนวน 60 นาย ลงเสี่ยงจังหวัดเชียงใหม่ที่บ้านดอยหลวง อ.เชียงดาว , ต.หนองหาร ต.ป่าไผ่ ต.แม่แฝก อ.สันทราย , อ.ดอยเต่า , อ.อมก๋อย, รอยต่อ 3 อำเภอในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา คือ อ.พร้าว อ.แม่แตง อ.เชียงดาว และ อ.ดอยสะเก็ด พร้อมนำประชาชนชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติของหมู่บ้านๆละ 50 นาย จำนวน 88,571 คน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ออกรณรงค์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจเพื่อร่วมกันลดการเผาในพื้นที่ ตลอดจนแนะนำประชาชนดูแลสุขภาพช่วงเกิดภาวะหมอกควัน
ร่วมแสดงความคิดเห็น