ตำรวจเชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าหมกบ่อน้ำ ยังวนเวียนอยู่ในจังหวัดเชียงราย เร่งแจกจ่ายรูปภาพคนร้าย สกัดการเดินทางออกนอกประเทศ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 มี.ค. 64 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามเหตุฆ่าหมกบ่อน้ำ พื้นที่บ้านสันขี้เบ้า ม.10 ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย

พ.ต.อ.ชยันต์ ปัญญาเครือ ผกก.สภ.พาน จ.เชียงราย เผยว่า ตำรวจได้ตรวจสอบพยานหลักฐาน ทราบว่าผู้ตายคือนายจะตี๋ จะแฮ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 435 ม.4 ต.แม่ทะลบ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เป็นชาวเขาเผ่ามูเซอ มาทำงานเป็นลูกจ้างโรงชำแหละหมูอินเตอร์ในเขต อบต.พาน พักอาศัยอยู่ที่บริเวณชุมชนข้างวัดเทพวัน ใกล้กับตลาดพาน โดยอาศัยอยู่กับภรรยาชาวลาวและลูกอีก 2 คน ห่างจากจุดพบศพประมาณ 6 กม. โดยมีผู้ต้องสงสัยคือนายเอก(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชาวลาวที่รู้จักกับภรรยาผู้ตาย เคยมาร่วมวงดื่มเหล้ากับผู้ตายบ่อยครั้ง ผู้ต้องสงสัยทำงานรับจ้างทั่วไป ไม่มีหลักแหล่ง พักอาศัยอยู่ใกล้กับผู้ตาย และมีข้อมูลว่านายเอก(นามสมมุติ) ไปเฝ้าสวนลำไยให้กับคนรู้จัก ซึ่งเป็นสวนลำไยที่พบศพ และมีผู้พบเห็นนายเอก(นามสมมุติ) ร่วมดื่มเหล้ากับผู้ตายเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่นายจะตี๋จะหายตัวไร้ร่องรอย ตร.ได้เชิญตัวนายเอก(นามสมมุติ) มาสอบปากคำครั้งหนึ่งเมื่อประมาณวันที่ 2-3 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นยังไม่พบศพ ถูกเชิญตัวมาสอบเนื่องจากมีคนพบเห็นว่าได้อยู่กับคนตายเป็นคนสุดท้าย แต่เนื่องจากขาดหลักฐานเอาผิด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ปล่อยตัวไป จนต่อมาได้มีการพบศพนายจะตี๋ แต่ก็ปรากฏว่านายเอก(นามสมมุติ) ผู้ต้องสงสัยได้หายตัวออกจากพื้นที่ไปแล้ว
“เมื่อวานได้เบาะแสว่ามีผู้พบเห็นผู้ต้องสงสัยไปเดินหางานอยู่ที่ตลาดล้านเมือง อ.เมืองเชียงราย ตนจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ไปติดตามแต่ยังไม่พบตัว แต่ก็ยังวางกำลังไว้อยู่” ผกก.สภ.พานกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.องอาจ เฟื่องฟู รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พาน กล่าวว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวคนร้าย โดยให้ชุดสืบสวนของ สภ.พาน และชุดสืบสวนของภูธร จ.เชียงราย ลงพื้นที่ไปตามบ้าน ที่พักของเพื่อนฝูงที่คาดว่าจะรู้จักกับผู้ต้องสงสัย และส่งรูปภาพให้กับ ตม. ทหาร เพื่อติดตามตัวคนร้าย ซึ่งเป็นคนสัญชาติลาวไม่ให้หลบหนีกลับบ้านเกิด คาดว่ายังวนเวียนอยู่ในจังหวัดเชียงราย

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านสันขี้เบ้า ม.10 ต.ม่วงคำ เพื่อดูที่เกิดเหตุ โดยมีนายอโนเชาว์ ประดิษฐ์ภู่ ผญบ.สันขี้เบ้า และนายตุ่ย ปาริมา ผช.ผญบ. เป็นผู้นำชี้จุดพบศพ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่การเกษตร อยู่ใกล้กับสำนักสงฆ์ผาผึ้งประมาณ 200 เมตร และห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1.5 กม.

นายอโนเชาว์ ประดิษฐ์ภู่ ผญบ.สันขี้เบ้า เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวาน (4 มี.ค.) ตนได้ให้ลูกบ้านช่วยกันตัดไม้ไผ่เพื่อเตรียมทำกิจกรรมจักรสานที่จะมีขึ้นใน วันที่ 8 มี.ค. ที่จะถึงนี้ ก็เลยพากันมาจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ตอนที่ไปหาไม้ไผ่ก็ได้แยกย้ายกันไปตัด เมื่อตัดไปได้สักพักได้มีนายธีรสานต์ กาวี ลูกบ้านได้วิ่งมาตาม นายตุ่ย ปาริมา ผช.ผญบ. ซึ่งตัดไม้ไผ่อยู่ใกล้กันให้มาช่วยดูศพในบ่อน้ำ โดยบอกว่าได้กลิ่นเหม็นโชยมา และที่บ่อน้ำมีรอยเลือดติดอยู่ จึงไปเปิดกระเบื้องที่ปิดปากบ่อออก ก็พบศพนอนคว่ำหน้าอยู่ในบ่อ เมื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบก็พบร่องรอยหลักฐานสำคัญที่คาดว่าจะเป็นรอยเลือดของผู้ตายตามพื้นถนน ซึ่งอยู่ห่างจากบ่อน้ำที่พบศพประมาณ 10 เมตร และพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 1 ปลอก

ผญบ.สันขี้เบ้า กล่าวเสริมว่า มีชาวบ้านเล่าต่อๆกันมาว่า คนที่ก่อเหตุเคยไปก่อเหตุขโมยปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งพักอาศัยอยู่ใกล้กัน แต่ได้นำมาคืนเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ไม่ทราบว่าเป็นกระบอกเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุหรือเปล่า ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง

ด้าน น.ส.น้อย ทองเยี่ยม อายุ 22 ปี ภรรยาชาวลาวของผู้ตาย ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าเลขที่ 1120/12 ม.1 ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนอยู่กินกับสามีมานานประมาณ 7 ปี มีลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 7 ปี คนเล็กอายุ 2 ปี สามีทำงานรับจ้างชำแหละหมู ตนเป็นแม่บ้าน ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นคนตัวเล็ก ผิวดำ ชอบใส่หมวก ส่วนตัวไม่ค่อยสนิทกัน มาเที่ยวหาสามีบ้างเป็นบางครั้ง แต่วันที่ 26 ก.พ. นายเอก(นามสมมุติ) ก็มาขอให้สามีไปส่งที่ทำงานเลี้ยงไก่ แล้วสามีก็หายไปตั้งแต่วันนั้น มีเพื่อนที่ทำงานก็มาถามว่าหายไปไหน ตนก็บอกว่าออกบ้านไปแล้ว แต่เพื่อนบอกไม่ได้ไปทำงาน ทีแรกตนก็นึกว่าสามีคงจะไปเที่ยวบ้านเพื่อน ไม่นานคงกลับมาบ้าน แต่กลับไร้วี่แวว ญาติพี่น้องตามหาและลงประกาศคนหายในสื่อโซเซียล จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 มี.ค. มีคนรู้จักโทรบอกว่ามีคนพบศพคนถูกฆ่าทิ้งบ่อก็เลยให้เขาช่วยถ่ายภาพส่งมาให้ พอเห็นเสื้อผ้าตนก็จำได้ว่าเป็นของสามี เพราะตนเป็นคนเตรียมเสื้อผ้าไปทำงานให้สามีด้วยตนเอง ตนยังไม่มีโอกาสเห็นศพ ตอนนี้ยังชันสูตรอยู่ที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ คาดว่าน่าจะไปรับศพกลับมาทำพิธีได้ในวันนี้ ส่วนพิธีศพคิดว่าจะทำพิธีที่วัดเกตุแก้ว โดยจะทำพิธีแค่ 1 คืน เพราะเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน