แก๊งรถยนต์ตบทรัพย์อาละวาดที่จ.แพร่ ทั้งในเขตอ.ร้องกวางและอ.เมืองแพร่คาดว่ายังมีอีกหลายรายที่ยังไม่มาแจ้งความ

เรื่องแก๊งตบทรัพย์ยังหากินคล่องที่จ.แพร่ โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ในโลกโชเชียลทั้งเฟชบุ๊กและไลน์กลุ่มต่างๆ ใน จ.แพร่ โพสเตือนภัย ว่า “รับแจ้งวันนี้ 8 มีนาคม 2564 เวลา 13.30 น. มีแก้งมิจฉาชีพขับรถตบทรัพย์ประกบเฉี่ยวชน แล้วเรียกค่าเสียหาย ได้ทำการตบทรัพย์บริเวณม่อนแม่ยางกาด ต.แม่ยางตาล อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เป็นรถกระบะยี่ห้อวีโก้สีขาวป้ายทะเบียน 6668 กทม. ส่วนอีกคันเป็นรถเก๋งสีขาว ไม่ทราบป้ายทะเบียน ผู้เสียหายเป็นชาวร้องกวางโดนผู้หญิงอายุประมาณ 30ปี เรียกค่าเสียหายไป 3,000 บาท โดยบอกถ้าไปแจ้งความจะเสียเวลาให้จ่ายตรงนั้นเลย ช่วยประชาสัมพันธ์ให้โปรดระมัดระวังแก้งค์มิจฉาชีพนี้ด้วย ให้แจ้งความให้ตำรวจมาหรือไปตกลงที่โรงพักห้ามจ่ายเงินก่อนเด็ดขาด” นั้น

 

ต่อมาเมื่อเย็นวันที่ 8 มีนาคม เวลา 16.00 น.ขณะที่ ร.ต.ท.กฤษกร หงส์งาม รองสว.สอบสวน สภ.เมืองแพร่ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนประจำวัน สภ.เมืองแพร่ อยู่นั้น ได้มีสองพ่อลูกหน้าตาตื่นขึ้นมาบนสภ.เมืองแพร่ มี นางปวีณา โลกคำลือ อายุ 40 ปี ได้พาบิดา คือ นายสุพล มะณีกาศ อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 369 ม.5 ต.บ้านเหล่า อ.สูงเม่น จ.แพร่ เดินได้ให้การกับ พนักงานสอบสวน ปากคอสั่นว่า ได้ถูกคนร้ายแก๊งรถยนต์ ตบทรัพย์ เหตุเกิดที่บริเวณถนนเลนขาล่อง หน้าปั้ม ปตท.นาจักร ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ สูญเงินชดใช้ค่าเสียหายไป 5,000 บาท ที่เข้ามาแจ้งความเพราะเห็นในเพจข่าว แพร่ข่าวออนไลน์ แจ้งข่าวเตือน รถ ทะเบียน 6668 กทม. จึงคิดว่าโดนตบทรัพย์แน่นอน

โดย นางปวีณาฯ ให้การว่า ช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. วันนี้ ได้ขับรถกลับจากซื้อของในตัวเมืองแพร่ ออกมาทางแยกแก้ววรรณา จะกลับบ้าน อ.สูงเม่น โดยมี นายสุพลฯ ผู้เป็นบิดา เป็นคนขับ เมื่อถึงแถวๆ หน้าปั้ม ปตท.นาจักร ได้มีรถเก๋ง สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขี่คล่อมเลนซ้ายก็ไม่ไปขวาก็ไม่ไป เมื่อรถที่พ่อขับเข้าไปใกล้ รถคันดังกล่าวได้บีบแตรเสียงดัง ให้ตกใจแล้วเร่งเครื่องรถหนีไป ระหว่างนั้นได้มีรถ กระบะโตโยต้าสีขาว เข้ามาเบียดด้านหลังซ้ายรถของพ่อที่ตนเองนั่งมาด้วย จากนั้นมีรถจากแก๊งตบทรัพย์ขี่รถตามมาเปิดไฟไล่หลังเพื่อให้จอดรถเจรจา

 

 

นางปวีณา ให้การต่ออีกว่าเมื่อจอดรถเห็นมีผู้หญิงลักษณะสวย ดูดี ใส่ชุดแซก สวมแมสปิดหน้า พูดภาษาไทยกลางชัดเจน แสดงออกด้วยอาการตกใจ เหมือนว่าเป็นครั้งแรกโดนรถชน แล้วมาบอกกับตนกับพ่อว่าว่า เป็น ผจก.ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่ จ.น่าน กำลังจะกลับบ้านที่ จ.พิษณุโลก รีบมากขอให้ตนเองและพ่อชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 5 พันบาท เพราะไม่อยากเสียเวลาไปพบตำรวจ ให้จบกันเลย ซึ่งระหว่างนั้นตนเองได้บอกว่า จะให้แจ้งตำรวจและประกัน ผู้หญิงจากแก๊งตบทรัพย์ได้บ่ายเบี่ยง ว่ารีบมาก ไม่ต้องให้เรื่องถึงตำรวจ จะได้ไม่เสียเวลาทั้ง 2 ฝ่าย ตนเองและพ่อจึงใจอ่อน จ่ายเงินให้แก๊งตบทรัพย์ไป 5 พันบาท


นางปวีณา ให้การต่ออีกว่า ระหว่างที่เจรจาตนเองได้ถ่ายภาพรถและป้ายทะเบียน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ป้ายทะเบียนรถคันนั้น จะมัวๆ มองเห็นไม่ชัด แต่ตนเองจำเลขป้ายทะเบียนรถได้ เลข 1 ฒช 6668 กรุงเทพฯ จากนั้นได้ขอเบอร์โทรศัพท์มาด้วย แต่เมื่อมาถึงบ้าน ได้อ่านข่าวก็พบว่า มีการลงข่าวแจ้งเตือนให้ระวังแก๊งตบทรัพย์ ตนเองเห็นทะเบียนรถ จึงคิดว่า โดนเข้าแล้ว เมื่อโทรศัพท์ไปตามเบอร์ที่ให้ ก็ไม่สามารถ ติดต่อไป จึงได้นำพ่อ มาแจ้งความเอาผิดแก๊งตบทรัพย์แก๊งนี้ให้ได้

หลังรับเรื่องร้องทุกข์ดำเนินคดีกับแก๊งตบทรัพย์รายบนี้แล้ว ร.ท.กฤษกร หงส์งาม รองสว.สอบสวน สภ.เมืองแพร่ พนักงานสอบสวนเจ้าขดงคดี ได้รายงานให้ พ.ต.อ.นรินทร์ วรรณมณี ผกก.สภ.เมืองแพร่ทราบและได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ยรรยงค์ สุระมณี รองผกก.สส.สภ.เมืองแพร่ พ.ต.ท.ดิเรก กาศจักร สว.สส.สภ.เมืองแพร่ ออกติดตามสืบสวน จากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เพื่อขอเบาะแส ของแก๊งคนร้ายแก๊งนี้ เพื่อจะได้ติดตามจับกุมมาดำเนินคดี


ขณะเดียวกันเรื่องราวแก๊งตบทรัพย์ในลักษณะนี้ได้เกิดมานานหลายแห่ง และมาเกิดที่จ.แพร่ในวันนี้คาดว่าคงจะมีหลายรายแต่ยังไม่มีใครกล้าเข้าแจ้งความ ทางด้านตำรวจได้ฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่านว่า หากเกิดเหตุรถเฉี่ยวชน ไม่ว่า กรณีใดใด สิ่งแรกที่จะต้องทำคือ แจ้งตำรวจไว้ก่อน ไม่ต้องกลัวเสียเวลา เพราะถ้าเจอเหตุแบบนี้ กว่าจะทราบว่า โดนตบทรัพย์ คนร้ายก็หนีไปไหนต่อไหนแล้ว ฝาหเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนได้ระมัดระวัง

ร่วมแสดงความคิดเห็น