เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2564 ที่ผ่านมา น.ส.ทิวารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) ราษฏร ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง ได้โชว์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งมีรูปและระบุชื่อของตนเอง มาแสดงกับผู้สื่อข่าว พร้อมเล่าว่า หลายปีก่อนตนได้ยื่นลงทะเบียนขอรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ในเขต ต.สบตุ๋ย จนเวลาล่วงเลยมาก็ไม่ได้รับแจ้งว่าตนได้รับสิทธิหรือไม่ จึงไม่ได้สนใจหรือติดตามเรื่องต่อ
จนกระทั่งไม่นานมานี้ รัฐบาลมีโครงการคนละครึ่ง ออกมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ตนจึงได้ลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิฯ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต แต่ได้มีข้อความแจ้งขึ้นมาว่า ไม่สามารถเข้าร่วมคนละครึ่งได้ เนื่องจากเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับตนอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้รับบัตรฯ และใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาก่อนเลย จึงได้เดินทางไปติดต่อสอบถามที่ธนาคาร ที่เคยยื่นขอมีบัตรฯ อีกครั้ง จึงได้ทราบว่าบัตรฯ มีผู้เซ็นรับและนำไปใช้แล้วรวมกับบัตรฯ ของคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ไปติดต่อขอรับบัตรฯ อีกรวม 28 บัตร และทราบว่าผู้ที่นำไปใช้เป็น นศ.หญิงคนหนึ่ง ที่เคยฝึกงานกับธนาคาร สาขาดังกล่าวนั่นเอง น.ส.ทิวารัตน์ฯ เผยว่า ตนได้พยายามสืบเสาะจนทราบที่อยู่ของ นศ.หญิงคนดังกล่าว และได้เดินทางไปสอบถามกับเจ้าตัว ซึ่งก็ได้ยอมรับว่าเป็นผู้นำบัตรฯ ของตนเองไปใช้จริง ตั้งแต่ปี 2560 เมื่อสอบถามว่าจะชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นให้เท่าไร แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เพราะได้รับคำตอบว่าสามารถชดเชยให้ได้เพียง 2 พันบาท เพราะไม่มีรายได้อะไร
ผู้เสียหายจึงได้ไปสอบถามยังธนาคารดังกล่าวอีกครั้ง ว่าจะเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความสะเพร่าขององค์กรนี้ได้หรือไม่ แต่ทางธนาคารได้แจ้งว่า ได้ให้เงินย้อนหลังไปยังสำนักงานคลัง จ.ลำปาง แต่ยังไม่ได้รับคำตอบจากคลังฯ แต่อย่างใด ซึ่งล่าสุด น.ส.ทิวารัตน์ฯ ได้นำหลักฐาน ไปลงบันทึกแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง แล้ว เพื่อดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหายกับบุคคลทั้งสอง ที่ได้กระทำการละเมิดสิทธิของตน ในข้อหาลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์ตามกฏหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น