(มีคลิป) พี่ชายป่วยใจโหด !! คว้าปืนลูกซองยิงน้องชายที่คอยดูแล ขณะนำสำรับข้าวมาให้ ได้รับบาดเจ็บสาหัส

เรื่องราวเหตุพี่ขายป่วยโมโหยิงน้อง รายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.15 น.วันที่ 13 มีนาคม 2564 ขณะที่ ร.ต.อ.อดิคุณ จันทร์ภิรมย์ รองสวป.สภ.เมืองแพร่ นำรถยนต์สายตรวจออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ที่หน้าวัดนาจักร ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุ ร่วมกับ ด.ต.เกียรติ ขัดนันตา ตำรวจชุดสืบสวน และสายตรวจ ต.นาจักร จำนวนหลายนาย

เมื่อไปถึงบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้าน หมู่ 3 ต.นาจักร เจ้าหน้าที่จากรถกู้ชีพ รพ.แพร่ กำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บคือนายวิเชียร (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าท้อง ด้วยปืนลูกซอง อาการสาหัส ต่อมา พ.ต.ท.ปกิต ผัดขัน สว.สอบสวน สภ.เมืองแพร่ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวน ประจำวัน สภ.เมืองแพร่ รับแจ้งเขต จึงรายงานให้ พ.ต.อ.นรินทร์ วรรณมณี ผกก.ทราบ และเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จากการให้การของ นางสุกัญญา อายุ 41 ปี ลูกสาวนายวิเชียร ผู้บาดเจ็บให้การว่า มือปืนที่ยิงพ่อคือ นายชวน อายุ 79 ปี ซึ่งนอนป่วยอยู่ในบ้าน ฐานะเป็นลุงเป็นคนขี้โมโหง่าย พ่อเป็นคนดูแลหาข้าวหาน้ำมาให้เป็นประจำ นายชวน เป็นคนขี้หลงลืม ขี้โมโหเอะอะโวยวาย หายาที่กินเป็นประจำไม่เจอ โทษคนโน่นคนนี้เอาซ่อนบ้าง

นางสุกัญญา ให้การอีกว่า ก่อนเกิดเหตุสลดใจ เมื่อคืนที่ผ่านมา นายชวน นอนอยู่บ้าน ได้มี หลานสาว เข้ามานอนเป็นเพื่อน และเมื่อวานหลานสาวไปถอนฟันมาทำให้ปวดฟัน ตื่นเช้าขึ้นมานายชวน ได้บอกให้หลานสาวนำขยะไปทิ้ง แต่หลานสาวบอกไม่สบายขอเวลาสายๆ ค่อยทำ จึงทำให้นายชวน ไม่พอใจปาสิ่งของใส่หลานสาว

ต่อมาที่นายวิเชียร น้องชาย ได้นำสำรับข้าวมาให้พี่ชาย นายชวน ได้ชักปืนลูกซองสั้นยิงเข้าใส่ นายวิเชียร ถูกบริเวณหน้าท้อง จนล้มลง จนมี ด.ต.เกียรติ ขัดนันตา ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองแพร่ อยู่ใกล้บ้านเกิดเหตุมาแย่งปืนไว้ได้ พร้อมยึดลูกปืนลูกซองได้อีก 3 นัด เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อประกอบคดี

ต่อมาตำรวจได้ควบคุมตัวนายชวน กาศเกษม พี่ชาย ในสภาพนอนป่วย ส้ากันเหื้อน ทำให้เพื่อนบ้านที่มาดูที่เกิดเหตุต่างบ่นวิจารณ์ถึงการกระทำต่อน้องชาย ที่คอยช่วยเหลือดูแล หาข้าวหาน้ำมาให้กินและทำได้ลงคอ ตำรวจได้ควบคุมตัวพี่ชายปืนโหด พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้น และกระสุนปืนอีก 3 นัด นำไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนอาการของวิเชียร ล่าสุดได้เสียชีวิตลงแล้ว ตำรวจจึงได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อประกอบคดีต่อไป


สมฤทธิ์ ชัยพลังฤทธิ์/แพร่

ร่วมแสดงความคิดเห็น