สลด!!! สาวแรงงานเมียนมา น้อยใจแฟนหนุ่ม ปิดล็อคประตูห้องก่อนคิดสั้นผูกคอตาย แฟนเห็นหายเงียบเรียกดูไม่มีเสียงตอบรับ งัดประตูห้องเข้าไปเจอเป็นศพ

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 มี.ค.64 ที่ผ่านมา ทาง พ.ต.ต.ภัณฑารักษ์ เครือวงค์ สว.(สอบสวน) สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอเสียชีวิตภายในห้องแถว พื้นที่หมู่ 2 ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ภายหลังทราบเรื่องจึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยเวียงทอง และทีมแพทย์ ซึ่งเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบร่างหญิงสาว 1 ราย เสียชีวิตอยู่ภายในห้อง สภาพศพใช้สายไฟผูกติดกับแท่งเหล็กที่ติดกับกำแพงห้อง ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันทำการปลดร่างของผู้เสียชีวิตลงมาตรวจสอบ เบื้องต้นไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด และทราบชื่อผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมาคือ น.ส.นานลีหอม (ไม่มีนาสกุล) ชาวสัญชาติพม่า อายุ 19 ปี มีอาชีพทำงานแรงงานรับจ้างทั่วไป ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกข้อมูลในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานและได้ให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้จากการสอบถามสาเหตุเบื้องต้นทราบว่า น.ส.นานลีหอม ได้พักอาศัยอยู่ที่ห้องพักดังกล่าวกับ นายจายเล็ก ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มสัญชาติเดียวกัน โดยในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ทางผู้เสียชีวิตได้มีปัญหาทะเลาะ และมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับแฟนหนุ่ม ด้วยความน้อยใจทางผู้เสียชีวิตจึงหนีเข้าห้องพักปิดล๊อกประตูเงียบอยู่นาน จนกระทั่งต่อมาในช่วงเช้ามืด ทางแฟนหนุ่มเห็นว่าผู้เสียชีวิตเงียบหายอยู่ในห้องนาน จึงได้ลองเค๊าะประตูเรียกแฟนสาว แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ อีกทั้งประตูก็ถูกล๊อกเปิดเข้าไปไม่ได้ จนเจ้าตัวเห็นว่าสถานาการณ์ไม่ดีจึงได้งัดประตูห้องพัก เข้าไปดูก็พบร่างของ น.ส.นานลีหอม ใช้สายไฟผูกคอเสียชีวิตอยู่ ตนจึงรีบขอความช่วยเหลือกับคนในระแวก พร้อมทั้งแจ้งทางเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วนั้น คาดว่าสาเหตุที่ น.ส.นานลีหอม ผูกคอฆ่าตัวตายนั้น น่าจะมาจากการที่เจ้าตัวเกิดความน้อยใจที่ได้ทะเลากับแฟนหนุ่ม จากนั้นก็อาจจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย ซึ่งหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยดำเนินการนำร่างของ น.ส.นานลีหอม ผู้เสียชีวิตส่งไปยังแผนกนิติเวชของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อดำเนินการตรวจชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง จากนั้นจะได้ให้ทางญาติมารับศพเพื่อนำกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น