วันที่ 2 เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าวติดตามความคืบ หน้ากรณีเหตุผัวแทงเมียเสียชีวิต เพราะหวาดระแวงเมียมีคนใหม่ ที่บ้านหนองด่าน ม.1 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย
ที่บ้านเกิดเหตุคือบ้านเลขที่ 56 ม.1 ต.รอบเวียง ซึ่งอยู่หลังโรงเรียนอนุบาลหัวฝาย ไม่มีคนอยู่ เพราะทางญาติและเพื่อนบ้านได้ไปข่วยกันเตรียมสถานที่สำหรับประกอบพิธีศพที่วัดศรีมิ่งแก้ว ซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียนอนุบาลหัวฝาย
สอบถามนายนรินทร๋ มณีรัตน์ อายุ 35 ปี เล่าว่า ครอบครัวผู้ตายมีด้วยกัน 4 คน คือนายอินจันทร์ คำแก่น อายุ 75 ปี (ผู้ก่อเหตุ) นางปีนคำ คำแก่น อายุ 72 ปี (ผู้เสียชีวิต) น.ส.เสาวนีย์ คำแก่น อายุ 38 ปี บุตรสาวคนโต และนายอรรถพล คำแก่น อายุ 35 ปี บุตรชายคนเล็ก โดยผู้ตายจะปลูกผักสวนครัวเอาไปขายที่ตลาด ได้เงินมาวันละ 60-70 บาท แต่ฝ่ายสามีไม่ทำงานอะไร และมักจะทะเลาะกับภรรยาเป็นประจำ เหตุเพราะหวาดระแวงฝ่ายหญิงมีคนอื่น เวลาไปขายของตอนเช้าก็จะหาว่าฝ่ายหญิงแอบไปหาชู้ ทั้งที่จริงไม่มีอะไร เป็นการคิดไปเองของฝ่ายสามี แต่วันเกิดเหตุตนได้ยินเสียงว่ามีคนทะเลาะกันที่ข้างบ้าน แต่ก็ไม่รู้ว่ารุนแรงถึงขั้นแทงกันตาย เพราะที่โรงเรียนมีงานกีฬา เสียงจะค่อนข้างดัง ตนจึงไม่ค่อยได้ยิน มารู้อีกทีก็ตอนนางปีนคำเสียชีวิตไปแล้ว ตนทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจมาก เพราะผู้ตายเป็นคนดี ขยันทำมาหากิน เลี้ยงดูตนมาตั้งแต่ยังเด็ก ถือว่าเป็นแม่นมคนหนึ่ง ได้ยินคนที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าผู้ตายพยายามวิ่งหนีมาทางบ้านตน คาดว่าจะวิ่งมาขอหลบเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่โดนแทงตายเสียก่อน ด้านพิธีศพจะไปประกอบพิธีที่วัดศรีมิ่งแก้ว และจะเผาศพในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้
นายนรินทร์ได้พาผู้สื่อข่าวไปชี้จุดที่ผู้ตายถูกแทง จุดแรกคือที่หน้าบ้าน ก่อนที่ผู้ตายจะวิ่งออกมาที่ถนน และถูกสามีตามมาแทงซ้ำอีกจนถึงแก่ความตาย จากการดูบาดแผลคร่าวๆทราบว่าผู้ตายโดนแทงไปทั้งหมด 5 แผลคือ ตรงขั้วหัวใจ และบริเวณช่วงท้อง 4 แผน ที่แขนด้านซ้ายอีก 1 แผล
ที่วัดศรีมิ่งแก้ว มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ และรอรับศพที่ญาติๆบางส่วนกำลังไปรับจากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยนายอรรถพล คำแก่น อายุ 35 ปี บุตรชายคนเล็กของผู้เสียชีวิตเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ช่วงเกิดเหตุตนกำลังช่วยทำงานภายในวัด มีเพื่อนบ้านได้โทรมาแจ้งข่าวกับทางเจ้าอาวาสวัดว่าแม่ตนถูกพ่อใช้มีดแทง หลังทราบข่าวก็รีบวิ่งกลับบ้านเพื่อไปดูแม่ แต่ก็ไม่ทัน แม่เสียชีวิตไปก่อนที่ตนจะไปถึง ส่วนพิธีศพจะต้องคุยกับพี่สาวและญาติๆเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง
ร่วมแสดงความคิดเห็น