อำเภอเทิง จ.เชียงราย จัดประชุม ศปก.อ.เทิง เน้นย้ำทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังโควิดของทางจังหวัดอย่างเคร่งครัด

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2564 เวลา 15.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเทิง (ศปก.อ.เทิง) ได้จัดประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเทิง เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และพิจารณาแนวทางการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่อำเภอเทิง โดยมีนายบุญส่ง ตินารี นอภ.เทิง จ.เชียงราย เป็นประธานการประชุม และมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมภูเวียง ที่ว่าการอำเภอเทิง ชั้น 2

ในที่ประชุม นอภ.เทิง ได้เน้นย้ำเรื่องสำคัญ 3 เรื่อง เรื่องแรก เน้นย้ำให้แต่ละชุมชนเข้มงวดในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กทม. สมุทรสาคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นนทบุรี นครปฐม ตาก ราชบุรี และเชียงใหม่ ให้ไปรายงานตัวกับผู้ใหญ่บ้านหรือผู้นำชุมชน แล้วจะมี อสม.ไปตรวจอาการเพื่อประเมินความเสี่ยง หากไม่มีไข้และไม่มีประวัติเสี่ยงก็ไม่ต้องกักตัว แต่ให้ปฏิบัติตัวตามมาตราการป้องกันโควิด-19 กรณีที่พบมีไข้หรือมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อต้องส่งตรวจที่ รพ. หากผลเป็นลบจะต้องกักตัวที่บ้าน 14 วัน มี อสม.เข้าไปติดตามอาการทุกวันและแนะนำการปฏิบัติตัว แต่หากผลตรวจเป็นบวกจะต้องแอดมิทเข้ารับการรักษาตาม รพ.ที่ภาครัฐจัดเตรียมไว้

เรื่องที่ 2 เน้นย้ำเรื่องการจัดงานสงกรานต์ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต้องปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดเชียงราย ฉบับที่ 51 เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่าให้มีการจัดกิจกรรมได้แต่ต้องมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด งดการรวมกลุ่มสาดน้ำ เช่น ถนนคนม่วนตรงชุมชนสันโค้งน้อย หาดเชียงราย (พัทยาน้อย) อ.เมืองเชียงราย งดจัดคอนเสิร์ต งดประแป้ง งดการเล่นปาร์ตี้โฟม หลีกเลี่ยงการจัดเลี้ยงสังสรรค์ ฯลฯ

เรื่องสุดท้ายคือ ให้ ส่วนราชการ อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์ย้ำเรื่องการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโควิด-19 ตามมาตรการ D-M-H-T-T กล่าวคือ D=Distancing อยู่ห่างไว้ M=Mask Wearing ใส่แมสก์กัน H=Hand Washing หมั่นล้างมือ T=Testing ตรวจให้ไว และ T=Thai Cha na ใช้แอพไทยชนะและหมอชนะ

สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิดในพื้นที่ จ.เชียงรายในวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมจำนวน 13 คน ยอดสะสมผู้ติดเชื้อที่เข้าสู่กระบวนการรักษาทั้งหมด 37 คน ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่มาจากจังหวัดกลุ่มเสี่ยง ยังไม่พบการแพร่ระบาดภายในจังหวัดแต่อย่างใด