ส. ยกน้ำหนักมีเฮ ศาลกีฬาโลกให้ส่ง นักกีฬายุวชนลงเล่นได้

ตามที่สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการทำเรื่องอุทธรณ์เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ยกน้ำหนักไทยต่อศาลกีฬาโลกที่เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 63 จากกรณีตรวจพบการใช้สารต้องห้ามนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 เม.ย. นายนิพนธ์ลิ่มบุญสืบสายประธานคณะทำงานกฎหมายระหว่างประเทศของสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯได้รายงานถึงคำตัดสินจากคณะอนุญาโตตุลาการของศาลกีฬาโลกระหว่างผู้อุทธรณ์คือสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯกับสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ (ไอดับเบิลยูเอฟ) ลงวันที่ 8 เม.ย. 64 (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยแบ่งได้เป็น 3 ภาคส่วนหลัก

ส่วนที่1นักกีฬายกน้ำหนักระดับยุวชนสามารถกลับเข้าไปแข่งขันในรายการระดับนานาชาติของไอดับเบิลยูเอฟได้แล้วเพราะโทษห้ามเข้าร่วมการแข่งขันหมดไปตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 63 สำหรับนักกีฬายกน้ำหนักเยาวชนและประชาชนสามารถกลับเข้าไปร่วมการแข่งขันได้หลังจากวันที่ 18 มิ.ย. 64 แต่หากต้องการกลับเข้าไปแข่งขันทันทีนั้นทางสมาคมฯจะต้องชำระเงิน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,400,000 บาทให้ไอดับเบิลยูเอฟแต่ไม่สามารถเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่นได้

ส่วนที่2เจ้าหน้าที่ทางเทคนิคที่จะไปเป็นผู้ตัดสินหรือกรรมการตัดสินนานาชาติสามารถกลับไปปฏิบัติหน้าที่ได้ในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขและส่วนที่ 3 สำหรับสมาคมฯ จะถูกจำกัดสิทธิในการดำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ จนถึงวันที่ 1 เม.ย. 66 โดยไม่มีสิทธิจัดการแข่งขัน , ไม่มีสิทธิจัดและเข้าร่วมประชุมต่างๆไม่มีสิทธิในการยื่นหรือเสนอญัตติและวาระต่างๆเป็นต้นยกเว้นการศึกษากับเข้าอบรมในเรื่องการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา


อย่างไรก็ตามคำตัดสินยังเปิดช่องว่าหากสมาคมฯชำระเงิน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 6,400,00 บาท จะทำให้ระยะเวลาการถูกจำกัดสิทธิสามารถกระชับหรือย่อขึ้นมาได้ประมาณ 1 ปีโดยให้ไปสิ้นสุดได้ในวันที่ 7 มี.ค. 65 พร้อมกันนี้ สมาคมฯจะต้องแสดงถึงเจตนารมณ์และหลักฐานเชิงประจักษ์ของการปฏิบัติที่เป็นจริง ในการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาที่สอดคล้องเป็นไปตามประมวลมาตรฐาน ขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลกหรือวาด้าโดยให้กับชุดคณะทำงานของไอดับเบิลยูเอฟ ซึ่งมีองค์ประกอบเป็นกรรมการอิสระจากภายนอก Independent Monitoring Group (IMG) มาติดตามผลการปฏิบัติงานของสมาคมฯ

จากคำตัดสินแสดงถึงความเมตตาจากองค์คณะอนุญาโตตุลากรของศาลกีฬาโลกโดยสมาคมฯ น้อมรับและเคารพในการตัดสินทุกประการนอกจากนี้แล้วสมาคมฯก็ได้มีหลายสิ่งอย่างที่จำเป็นต้องถอดเป็นบทเรียนเพื่อจะได้ป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นกับสมาคมฯซ้ำอีกสมาคมฯกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นองค์กรกีฬาอัจฉริยะโดยมีบุคลากรทรงคุณค่าระดับสากลมาร่วมขับเคลื่อนเพื่อสร้างพลังอำนาจทางกีฬาให้กับประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้นายนิพนธ์กล่าว

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น