นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน ครั้งที่ 14/2564 ณ ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุม เริ่มประชุมเวลา 11.00 น. มีการนำเสนอถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนพบผู้ติดเชื้อในการระบาดระลอกใหม่เมษายน 2564 ตั้งแต่วันที่ 9 – 17 เมษายน 2564 จำนวน 28 ราย กระจายใน 6 อำเภอ ยกเว้นอำเภอแม่ลาน้อยที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ โดยผู้ติดเชื้อทั้งหมดมีอาการไม่รุนแรง และพักรักษาตัวในโรงพยาบาลทุกคน
สำหรับวันที่ 17 เมษายน 2564 มีรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มอีกจำนวน 4 ราย เป็นผู้ป่วยในอำเภอปาย 1 ราย และอำเภอปางมะผ้า 3 ราย ทำให้ถึงขณะนี้มีผู้ติดเชื้อในการระบาดระลอกใหม่เมษายน 2564 รวม 28 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 4 ราย มีปัจจัยเสี่ยงดังนี้
รายที่ 25 อายุ 17 ปี เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยยืนยัน COVID -19 รายที่ 22 ทำงานในสถานบันเทิง จังหวัดเชียงใหม่ (ร้านเหล้ารีวายส์ (กาดพยอม) ได้รับแจ้งจากเพื่อนว่าติดเชื้อโควิด เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปาย แจ้งให้เข้ารับการตรวจคัดกรอง COVID -19 ผลการตรวจพบว่าติดเชื้อ จึงได้ประสานรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปาย
รายที่ 26 อายุ 18 ปี เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยยืนยัน COVID รายที่ 18 มีประวัติเที่ยวสถานบันเทิงร่วมกัน ได้รับแจ้งจากเพื่อนว่าติดเชื้อโควิด มาขอเข้ารับการตรวจคัดกรอง covid-19 ที่โรงพยาบาลปางมะผ้า ผลการตรวจพบว่าติดเชื้อ จึงได้ประสานรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์
รายที่ 27 อายุ 15 ปี ทำงานในสถานบันเทิง และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยยืนยัน covid-19 รายที่ 18 มีประวัติเที่ยวสถานบันเทิงร่วมกัน ได้รับแจ้งจากเพื่อนว่าติดเชื้อโควิด มาขอเข้ารับการตรวจคัดกรอง covid-19 ที่โรงพยาบาลปางมะผ้า ผลการตรวจพบว่าติดเชื้อ จึงได้ประสานรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปาย
รายที่ 28 อายุ 19 ปี เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยยืนยัน covid-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ กำลังติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม มาขอเข้ารับการตรวจคัดกรอง covid-19 ที่โรงพยาบาลปางมะผ้า ผลการตรวจพบว่า ติดเชื้อ จึงได้ประสานรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ผู้ติดเชื้อทั้ง 4 ราย มีอาการไม่รุนแรง อยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดตามมาตรฐานการดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในโรงพยาบาล ศรีสังวาลย์ และโรงพยาบาลปายแล้ว สำหรับการดำเนินงานเพื่อควบคุมการระบาดของโรค ได้สอบสวนโรคพบว่ามีผู้สัมผัสใกล้ชิดที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง จำนวนทั้งสิ้น 219 ราย ซึ่งได้ติดตามเพื่อทำการตรวจ ทางห้องปฏิบัติการแล้ว 215 ราย (ตรวจพบเชื้อ 12 ราย รวมอยู่ในยอดสะสม 28 รายแล้ว) ส่วนที่เหลืออีก 4 ราย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังเร่งติดต่อประสานให้เฝ้าระวังตัวเอง และไปรับการตรวจที่สถานบริการที่อยู่ใกล้ ส่วนการสอบสวนติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายใหม่ ที่พบเพิ่มในวันนี้ 4 ราย นั้น เนื่องจากเพิ่งทราบผลการตรวจช่วงเวลาดึกของคืนที่ผ่านมา ขณะนี้ ทีมสอบสวนควบคุมโรคกำลังดำเนินการสอบสวนโรคเพิ่มเติม และค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง มารับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคต่อไป
อนึ่ง ผู้ที่ผ่านการตรวจทางห้องปฏิบัติการ หากผลการตรวจเป็นลบ ท่านก็ยังเป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องกักตัวเองต่อให้ครบ 14 วัน ระหว่างการกักตัวเองนี้ ต้องสังเกตอาการตัวเองด้วยว่า มีไข้ เจ็บคอ น้ำมูก ตาแดง ผื่นขึ้น หรือไม่ หากมีอาการเข้าข่ายที่อาจมีการติดเชื้อ ท่านต้องขอรับการตรวจซ้ำ เพื่อให้ได้รับการดูแลรักษา ที่ถูกต้อง
ทั้งนี้ ขอการประชาสัมพันธ์ขอให้ผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 4 ราย หรือเดินทาง ไปในพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่ที่มีรายงานการระบาด แยกกักตัวที่บ้าน เป็นเวลา 14 วัน วัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน หากพบว่ามีไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย ให้รีบไปพบแพทย์ โดยแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือ โทรศัพท์สายด่วน 1669 เพื่อประสานการรับตัว เข้ารับการตรวจหรือรักษาในโรงพยาบาลต่อไป
การประชุมในวันนี้ ได้นำข้อกำหนดฉบับที่ 20 ที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาเป็นแนวทางในการพิจารณา ซึ่งมีมติที่จะออกเป็นคำสั่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอนต่อไป ดังนี้
ข้อ 1 การห้ามการดำเนินการหรือจัดกิจกรรมหรือที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค
(1) ห้ามการใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียน และสถาบันการศึกษาทุกประเภท เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่โรค เว้นแต่การใช้เป็นที่เอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือการใช้เป็นสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลืออุปการะ หรือการใช้สถานที่ตามข้อยกเว้นที่กำหนดไว้ในข้อ 1 ของข้อกำหนด (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2564
(2) ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคล ที่มีจํานวนรวมกันมากกว่า 50 คน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่ดําเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กําหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค โดยให้ดําเนินการตามมาตรการป้องกันโรค ที่ทางราชการกําหนด
ข้อ 2 มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ ในพื้นที่ควบคุม ดังนี้
ก. การจําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้การบริการจําหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม และการบริโภคในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 น.
ข. การจําหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สําหรับร้านอาหารหรือสถานที่จําหน่ายสุรา ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน
ค. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดําเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ จนถึงเวลา 21.00 น. โดยให้จํากัดจํานวนผู้ใช้บริการ และงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกมส์ เครื่องเล่น ร้านเกมส์และสวนสนุก ที่งดการให้บริการ
ข้อ 3 การงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทาง โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนงดหรือชะลอ การเดินทางในช่วงเวลานี้โดยไม่มีเหตุจําเป็น โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งมีการแพร่ระบาดของโรคที่อาจทําให้เสี่ยงหรือมีโอกาสติดโรค ขอความร่วมมือบุคลากรของรัฐ และให้ประชาชนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน หลีกเลี่ยง หรือ งดการเดินทางไปในจังหวัด ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงโดยไม่มีความจำเป็น และให้ผู้เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กำหนด โทรศัพท์แจ้ง หรือ รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ หากเป็นข้าราชการ พนักงานของรัฐ ให้แจ้งผู้บังคับบัญชาและให้ผู้บังคับบัญชาทำหนังสือรายงานต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ให้ผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้าตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ชุมชน ให้สังเกตอาการด้วยตนเอง เป็นเวลา 14 วัน นับจากวันเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน หากมีความผิดปกติ ให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ หรือ ที่หมายเลข 1669 ทันที
ข้อ 4 ให้ผู้เดินทางเข้ามายังพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทุกช่องทางต้องสแกน QR Code
“สวัสดีแม่ฮ่องสอน” หรือ บันทึกภาพ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ณ จุดตรวจค้นที่กำหนด เพื่อให้สามารถติดตามได้ กรณีเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด จำนวน 18 จังหวัด กรุงเทพมหานคร จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดตาก จังหวัดนครปฐม จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระยอง จังหวัดสงขลา จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสระแก้ว จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดอุดรธานี ให้รายงานตัวต่อ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ อสม. ในหมู่บ้าน เพื่อติดตาม สอบสวน Timeline และประเมินความเสี่ยง นอกจากนี้ จะต้องเฝ้าระวังตนเอง หลีกเลี่ยงการเข้าชุมชนและพื้นที่หนาแน่น เป็นเวลา 14 วัน กรณีบุคลากรของรัฐให้เขียน timeline รายงานผู้บังคับบัญชา และแจ้งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อไป
ข้อ 5 การจัดกิจกรรมทางสังคม ให้ประชาชนงดการจัดกิจกรรมทางสังคมในลักษณะ ที่เป็นงานสังสรรค์ งานเลี้ยง หรืองานรื่นเริงในช่วงเวลานี้ เว้นแต่เป็นการจัดพิธีการตามประเพณีนิยม และมีมาตรการป้องกันโรคที่เพียงพอเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ
ข้อ 6 การดําเนินรูปแบบการปฏิบัติงานที่เหมาะสม ขอความร่วมมือภาครัฐทุกหน่วยงาน ให้เจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการภาคเอกชนพิจารณา และดําเนินรูปแบบการปฏิบัติงานของบุคลากรในความรับผิดชอบในช่วงเวลานี้ โดยอาจเป็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work form home) การสลับวันทํางาน หรือวิธีการอื่นใด ที่เหมาะสมเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ โดยเฉพาะหน่วยงานที่ไม่ได้ให้บริการแก่ประชาชน สำหรับหน่วยงานที่ให้บริการฯ ให้นำเทคโนโลยีการลงทะเบียน นัดหมาย จัดคิว ผู้รับบริการเพื่อลดความแออัด
ข้อ 7 ให้ผู้ติดเชื้อทุกราย เข้ารับการตรวจรักษาและแยกกัก ในสถานที่ที่จังหวัดกำหนดไว้ และปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด การไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค คำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรค หรือ การปกปิดข้อมูลประวัติความเสี่ยง (Timeline) เข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีโทษทั้งจำคุก และปรับ จึงขอให้ผู้ป่วย หรือผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ให้ความร่วมมือ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่จังหวัดให้สงบโดยเร็ว
ในช่วงท้าย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน แจ้งเรื่องการงดจัดกิจกรรมรวมคนหมู่มาก ที่จังหวัดมีกำหนดจัดขึ้นทุกกิจกรรม เช่น การรดน้ำดำหัว ขอพร และแจ้งเรื่องการเปิดสถานที่ดำเนินการป้องกันควบคุมโรค และเพื่อรองรับผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (รพ.สนาม) ในวันที่ 18 เมษายน 2564 นี้
ร่วมแสดงความคิดเห็น