ห่วงติดเชื้อพุ่งอีกครั้ง หลังคนกลับจากหยุดสงกรานต์ ขณะที่ตัวเลขต่างอำเภอเริ่มขยับ โซนสีแดงเพิ่มเป็น 7 อำเภอ ผู้ว่าฯ ของดเดินทาง ช่วยกันอยู่บ้าน 14 วัน

จังหวัดเชียงใหม่ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ ( 19 เม.ย.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 116 ราย รวมผู้ป่วยสะสมในระลอกเดือนเมษายน จำนวน 2,349 ราย ในจำนวนนี้รักษาหายกลับบ้านไปแล้ว 43 ราย คงอยู่ในโรงพยาบาล 2,306 ราย


โดยทาง นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ป่วยรายวันในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เริ่มทรงตัว แต่ยอมรับยังเป็นห่วงกลุ่มประชาชนที่เดินทางกลับเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่หลังเทศกาลสงกรานต์ที่อาจทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อขยับขึ้นอีก จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคนช่วยกันอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติไปในระยะเวลา 14 วัน หลังจากกลับมา เช่นเดียวกับข้าราชการที่ได้สั่งให้ทำงานที่บ้านไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน นี้

สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน แม้ภาพรวมจะเริ่มทรงตัว แต่พบว่าแนวโน้มผู้ติดเชื้อในต่างอำเภอเริ่มขยับสูงขึ้น จึงมีความจำเป็นที่ประชาชนทุกพื้นที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายอำเภอ โซนสีแดง 7 อำเภอ คือ อ.เมืองเชียงใหม่ 1,185 คน , อ.สันทราย 216 คน , อ.สันกำแพง 104 คน , อ.สารภี 100 คน , อ.หางดง 85 คน , อ.แม่ริม 78 คน และ อ.ดอยสะเก็ด 60 คน ส่วนโซนสีขาวซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อยังคงมีเพียงเดียวคือ อ.กัลยาณิวัฒนา

ส่วนการรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ ขณะนี้โรงพยาบาลสนามศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา สามารถรองรับได้ทั้งหมด 1,500 เตียง รวมกับ โรงพยาบาลสนาม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 400 เตียง และ โรงพยาบาลสนาม มหาวิยาลัยเชียงใหม่ 300 เตียง และ ตั้งแต่เมื่อวานนี้มีผู้ติดเชื้อหายป่วยเริ่มทยอยกลับบ้าน ทำให้โรงพยาบาลสนามแต่ละแห่ง ยังมีพื้นที่รองรับผู้ป่วยได้ ขณะที่ฮอสพิเทลที่เริ่มเปิด นอกจากจะเพิ่มพื้นที่รองรับผู้ป่วย ยังเป็นเลือกใหม่ให้กับผู้ติดเชื้อ

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากมหาวิทยาลัยพายัพ ล่าสุดยังมีโรงแรมระดับ 3 – 5 ดาวและโรงพยาบาลเอกชนหล่ายแห่ง ให้ความสนใจเปิดเป็นฮอสพิเทลเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณณ์ก่อนที่จะยื่นขออนุญาตกับคณะกรรมการ

ร่วมแสดงความคิดเห็น