สืบสวนสันกำแพง แกะรอยกล้องวงจรปิด จับหนุ่มสักลายแขน ข้อหาลักทรัพย์ได้

สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ วันที่ 19 เมษายน 2564 โดยการอำนวยการ พ.ต.อ.วาชรัตน์ มูลวงษ์ ผกก.สภ.สันกำแพง, พ.ต.ท.คมสันต์ บำรุงยศ รอง ผกก.สส. สั่งการให้ พ.ต.ต.พชร ตั้งพชรวงศ์ สว.สส.พร้อมชุดสืบสวน จับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์คือ นายกานต์ อายุ 32 ปี อยู่ ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง คือ รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีเทา จำนวน 1 ตัว กางเกงยีนส์ขาสั้น สีน้ำตาล จำนวน 1 ตัว หมวกแก๊ป สีน้ำเงิน มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ จำนวน 1 ใบ

โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นนั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”

พฤติการณ์การจับกุม เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 17.50 น. เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.สันกำแพง ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ ที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ม.4 ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้เสียหาย ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน แจ้งว่าผู้เสียหายประกอบอาชีพค้าขาย โดยเปิดเป็นร้านขายของชำ ซึ่งเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2564 ก่อนที่จะปิดร้านขายของชำผู้เสียหาย ได้นำเงินสดประมาณ 8,000-10,000 บาท เป็นเงินเหรียญ 5 บาท และเหรียญ 10 บาท คละกัน เก็บรักษาไว้ในลิ้นชักโต๊ะขายของภายในร้าน เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2564 ช่วงเวลาเช้าผู้เสียหายเปิดร้านขายของชำตามปกติ ตรวจสอบดูลิ้นชักโต๊ะที่เก็บรักษาเงินไว้ ปรากฏว่าเงินจำนวนดังกล่าวได้สูญหายไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตรวจพบกล้องวงจรปิดของ ทต.ร้องวัวแดง ซึ่งติดตั้งบนเสาไฟฟ้าบริเวณหน้าร้านขายของชำของผู้เสียหาย บันทึกภาพไว้เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 22.02 น. เห็นคนร้าย จำนวน 1 คน สวมหมวกแก๊ปสีน้ำเงิน สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา สวมกางเกงยีนส์ขาสั้นสีน้ำตาล ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มีพ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาจอดบริเวณหน้าร้านขายของชำ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านขายของชำที่เกิดเหตุของผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 22.18 น. ได้บันทึกภาพขณะที่คนร้ายกำลังเข้าไปภายในร้านขายของชำ แล้วทำการและลักทรัพย์ภายในร้านขายของชำไป ซึ่งตำหนิรูปพรรณคนร้ายที่พบจากกล้องวงจรปิดภายในร้านที่เกิดเหตุ คล้ายกับภายคนร้ายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดอยู่หน้าร้านขายของชำในเวลาใกล้เคียงกัน


ต่อมาวันที่ 19 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของ ทต.ร้องวัวแดง เพื่อทราบถึงเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย และเพื่อติดตามหาตัวคนร้าย โดยเฝ้าสังเกตุรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ตลอดจนถึงลายสักผิวหนังบริเวณแขนข้างซ้ายและแขนข้างขวา ซึ่งกล้องวงจรปิดภายในร้านขายของชำได้บันทึกภาพไว้ได้ และตามวันเวลาจับกุมขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกซักถามพยาน ม.6 ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พบชายวัยรุ่นมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกับนายกานต์ เมื่อชายดังกล่าวพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีท่าทางพิรุธ จะหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบเข้าไปตรวจสอบ และซักถามบุคคลดังกล่าว

จากการสอบถามชายวัยรุ่นดังกล่าวรับว่าตนเองคือ นายกานต์ และรับว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าวในเวลากลางคืนจริง จึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้นภายในบ้านพักของตนเอง พบของกลางลำดับ 1-4 ซึ่งนายกานต์ฯ รับว่าเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2564 เวลากลางคืนประมาณ 22.00 น. ตนเองได้สวมเสื้อผ้าและขับรถจักรยานยนต์ดังกล่าว ไปก่อเหตุลักทรัพย์ที่เกิดเหตุด้วยตนเองจริง โดยทำคนเดียวและเอาเงินที่ได้จากการลักทรัพย์ ประมาณ 8,000-10,000 บาท ไปดื่มสุราหมดแล้ว

เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม มีหลักฐานเชื่อแน่ว่าผู้ถูกจับเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุคดีลักทรัพย์ของผู้เสียหายดังกล่าวข้างต้นจริง จากการรวบรวมพยานหลักฐานของกลางที่พบ รวมถึงคำรับสารภาพของผู้ถูกจับกุม จึงมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับได้ แต่ไม่สามารถออกหมายจับได้ทัน และหากไม่ควบคุมผู้ถูกจับไว้ ผู้ถูกจับน่าจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานหรือก่อเหตุร้ายประการอื่น ประกอบกับผู้ถูกจับเคยก่อเหตุในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์มาแล้ว และไม่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงเป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมด้วยเหตุแห่งการจับโดยไม่มีหมายจับ ตาม ป.วิอาญา มาตรา 78 (3) ประกอบกับ ป.วิอาญา ม.66 (2) ให้ทราบว่า “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นนั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” จากนั้น จึงได้จัดทำบันทึกการจับกุมไว้เป็นหลักฐาน นำตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณภาพข่าว สภ.สันกำแพง

ร่วมแสดงความคิดเห็น