รวบแล้วสาวแสบ ใช้มุกหลอกหนุ่มน้อย-หนุ่มใหญ่โอนไว อ้างครอบครัวมีปัญหา-พ่อแม่เสียชีวิต ล่าสุดหลอกหนุ่มสารภี โอนเงินให้ 2 แสนบาท ตามรวมได้ที่บ้านพักแฟนหนุ่มใน อ.แม่ริม

รวบแล้วสาวแสบ ใช้มุกหลอกหนุ่มน้อย-หนุ่มใหญ่โอนไว อ้างครอบครัวมีปัญหา-พ่อแม่เสียชีวิต ล่าสุดหลอกหนุ่มสารภี โอนเงินให้ 2 แสนบาท สุดท้ายหลบหนีไม่มาฟังคำสั่งศาล ตำรวจภาค 5 ตามรวมได้ที่บ้านพักแฟนหนุ่มใน อ.แม่ริม พบประวัติเป็นสาวแสบคนเดียวกับที่หลอกหนุ่มใหญ่วัย 53 ปี โอนเงินให้ 4 ล้านบาท

พ.ต.ท.ชัชชัย ขันทับเงิน สารวัตรสืบสวน และ พ.ต.ต.ปพัสศ์พงศ์ แก้วรากมุก สารวัตรสืบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 นำกำลังจับกุมตัว น.ส.นิภาภรณ์ ยืนมาก อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ 249/2563 ลงวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ในฐานความผิด”ยักยอกทรัพย์”ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.สันโป่ง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.แม่ริม หลังผู้ต้องหาหลบหนีไม่มาคำพิพากษา ที่ศาลแขวงเชียงใหม่

ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2563 ผู้เสียหายเป็นชาย อยู่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ รู้จักกับ น.ส.นิภาภรณ์ ยืนมาก ผู้ต้องหาทางเฟซบุ๊ก และมีการพูดคุยกันจนสนิทสนมคุ้นเคย กระทั่ง น.ส.นิภาภรณ์ ล่อลวงให้ชายคนดังกล่าวโอนเงินมาให้ โดยอ้างว่าทางบ้านมีปัญหา-พ่อแม่เสียชีวิต ด้วยความสงสารจึงโอนเงินไปให้เพื่อช่วยเหลือเป็นจำนวน 2 แสนบาท แต่ปรากฎว่าหลังโอนเงินไปก็ถูก น.ส.นิภาภรณ์ ตัดสัมพันธ์ ผู้เสียหายรายนี้จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.สารภี ก่อนที่ตำรวจจะติดตามจับกุมตัว น.ส.นิภาภรณ์ ได้ และส่งดำเนินคดีตามกฎหมายแต่ น.ส.นิภาภรณ์ ประกันตัวออกมาสู้คดี กระทั่งศาลแขวงเชียงใหม่ นัดให้มาฟังคำพิพากษา โดยศาลได้พิพากษาจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหาย แต่ น.ส.นิภาภรณ์ หลบหนีไม่มาฟังคำสั่งศาล จึงมีการออกหมายจับดังกล่าว

หลังชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 สืบทราบว่า น.ส.นิภาภรณ์ หลบหนีมาอยู่กับแฟนหนุ่มอีกคน ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.สันโป่ง อ.แม่ริม จึงนำกำลังมาจับกุมตัว ขณะที่การตรวจสอบประวัติพบว่าเมื่อปี 2563 น.ส.นิภาภรณ์ เคยถูกผู้เสียหายเป็นชายอายุ 53 ปี ชาว จ.สระบุรี แจ้งความไว้ที่ สภ.เสาไห้ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 และเข้าร้องเรียนกับนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดัง ว่าถูก น.ส.นิภาภรณ์ ซึ่งรู้จักกันทางเฟซบุ๊ก และคบหากันโดยไม่เคยเห็นหน้ามานานกว่า 2 ปี หลอกให้เขาโอนเงินตั้งแต่กลางปี 2562 ถึงปี 2563 ทั้งหมด 16 ครั้ง รวมเป็นเงิน 4 ล้านบาท โดยอ้างว่าพ่อแม่เสียชีวิต แต่ภายหลังตกเป็นข่าว มีผู้สื่อข่าวติดตามไปยังบ้านของ น.ส.นิภาภรณ์ ที่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ก็พบว่าพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้เสียชีวิตตามที่ น.ส.นิภาภรณ์ บอก โดยพ่อแม่รู้สึกตกใจมาก และฝากถึง น.ส.นิภาภรณ์ ออกมาชี้แจงว่าทำเรื่องนี้จริงหรือไม่

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.นิภาภรณ์ ถึงกรณีของชายสูงวัยอายุ 53 ปี ที่แจ้งความว่าเธอหลอกโอนเงินไปให้ 4 ล้านบาทนั้น น.ส.นิภาภรณ์ ปฏิเสธให้ข้อมูล เพราะได้มอบหมายให้ทนายความดำเนินการแล้ว ตั้งแต่แรกที่เป็นข่าว จึงไม่ขอให้ข้อมูลอะไรอีกเพราะเรื่องจะยาว ส่วนที่ถูกจับกุมวันนี้เป็นอีกกรณีหนึ่ง ยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี แต่ศาลส่งเอกสารไปที่บ้านตามภูมิลำเนา ที่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง แต่เธอไม่ได้อยู่บ้านจึงไม่ทราบ

น.ส.นิภาภรณ์ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กรณีของชายอายุ 53 ปี เธอไม่ได้หลอกลวงให้โอนเงิน 4 ล้านบาทตามที่กล่าวอ้าง โดยชายคนนี้ เคยมาจีบหญิงคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของร้านนวดในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ภายหลังหญิงคนนี้แต่งงานไปกับชาวต่างชาติ ทำให้ชายคนนี้อกหัก ส่วนเงินที่โอนเข้าบัญชีของเธอ จริงๆมีเพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น และหญิงเจ้าของร้านนวดก็ถอนไปใช้หมดแล้ว

หลังสอบปากคำ ตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.นิภาภรณ์ ไปส่งยังศาลแขวง จ.เชียงใหม่ ซึ่ง น.ส.นิภาภรณ์ ก็ได้นัดหมายให้แฟนหนุ่มไปประกันตัวเธอที่ศาลด้วย โดยแฟนหนุ่มคนนี้คบหากันมากว่า 3 ปี ทำงานอยู่ในหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งใน อ.แม่ริม ส่วนตัว น.ส.นิภาภรณ์ ทำธุรกิจส่งออกลำไยอบแห้งไปต่างประเทศ

ร่วมแสดงความคิดเห็น