วันที่ 22 เม.ย.64 รายงานข่าวจาก จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า ได้มีกระแสวิจารณ์ภาพสุดสงสาร เมื่อมีผู้พบเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ บริเวณทางเข้าโรงพยาบาลสนาม ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา เชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์หญิงสาว วัยไม่ถึง 30 ปี ซึ่งเจ้าตัวเกิดป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในพื้นที่ขณะนี้ และได้เข้ามารับการรักษากักตัวตามมาตรการวนการป้องกันการแพร่ระบาดที่หลังตรวจพบทางเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งให้มาเข้ารับการรักษา แต่สิ่งที่น่าสงสารคือการที่หญิงสาวรายนี้ได้แบกลูกน้อย วัยราวประมาณ 3 ขวบ พร้อมด้วยข้าวของสัมภาระ พะลุงพะลังเข้ามายังโรงพยาบาลสนามดังกล่าว ทำให้กลายเป็นภาพเหตุการณ์ และคาดว่าจากการที่หญิงคนนี้ป่วยและต้องมารักษาตัวจึงทำให้ไม่มีคนดูและลูกระหว่างรักษาและกักตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนาม จนต้องตัดสินใจพาลูกน้อยมาด้วยในที่สุด
ขณะที่ในเวลาต่อมา จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ทางด้าน นายวีรพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีเคสผู้ป่วยที่แม่ติดเชื้อโควิด-19 แล้วต้องแบกลูกน้อยมาด้วยนั้น ทางโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ จะมีการแบ่งโซนแยกไว้ชัดเจนสำหรับผู้ป่วยที่มาเป็นครอบครัว เช่น แม่กับลูก จะต้องรักษาอยู่ด้วยกัน เนื่องจากมีเรื่องของการดูแลเด็กเล็กหรือเด็กอ่อนเข้ามา แต่ถ้าหากคุณแม่ติดแต่ลูกไม่ติด และไม่มีญาติช่วยดูแล ทางจังหวัดเชียงใหม่จะมีสถานที่รับดูแลเอาไว้ชั่วคราวจนกว่าแม่เด็กจะหาย โดยทุกขั้นตอนจะอยู่ในการดูแลของแพทยทั้งหมด
นอกจากนี้แล้วในส่วนนี้จะแยกกับส่วนผู้ป่วยอื่นๆ เนื่องจากการดูแลรักษาคนไข้ที่เป็นแม่กับลูกจะละเอียดอ่อน กว่าคยไข้ปกติทั่วไป พร้อมกันนี้จะมีทีมจิตแพทย์และกุมารแพทย์ คอยให้คำปรึกษากับเคสลักษณะแบบนี้ด้วย จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในการดูแลและปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทุกคนยังคงปฏิบัติงานด้วยความมานะ และพร้อมช่วยเหลือทุกคนอย่างเต็มที่
ร่วมแสดงความคิดเห็น