รองแม่ทัพภาคที่ 3 จัดชุดรณรงค์ฯ ลาดตระเวน ป้องกันไฟป่าและโควิด ภายหลังอากาศร้อนขึ้น

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2564 พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า (บก.คฟป.ทภ.3 สน.) รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ มีค่า PM 2.5 ระหว่าง 16 – 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ค่า PM 10 ระหว่าง 31 – 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรโดยมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด และ ค่าAQI ระหว่าง 18– 124 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย


ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 ถึง 21 เมษายน 2564 พบว่า 17 จังหวัดภาคเหนือจำนวน 55,549 จุด ลดลงจากปี 2563 ( 134,037 จุด ) ในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวน 78,488 จุด คิดเป็น 58.56 % ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่พบว่าในปีนี้เกิดจุดความร้อนสะสม 7,396 จุด ลดลงจากปี 2563 ( 21,165 จุด ) ในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวน 13,769 จุด คิดเป็น 65.06 %


รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า กล่าวต่อว่า เนื่องจากสภาพอากาศในขณะนี้เริ่มร้อนขึ้น และไม่มีฝน ดังนั้นเกรงว่า บางพื้นที่อาจจะเกิดไฟป่าได้ จึงยังคงจัดชุดรณรงค์สร้างจิตสำนึกลงปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง ควบคู่กับการให้ความรู้ประชาชน ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 โดยบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่น และประชาชนจิตอาสา

ร่วมแสดงความคิดเห็น