นาย เทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 7 พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่เข้าตรวจสอบกำแพงวัดยางกวง ตำบล หายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่หลังจากเมื่อกลางดึกคืนนี้ ( 2 เมษายน) ถูกพายุฝนพัดกระหน่ำจนทำกำแพงของวัดที่มีอายุกว่า ร้อยปี ได้พังถล่มลงมาทับรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมาสด้า สีบอร์นเงิน ทะเบียน กบ 3543 เชียงใหม่ที่จอดอยู่ริมกำแพงวัดได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นำตลับเมตรมาวัดแนวกำแพงและทำการสำรวจพื้นที่กำแพงวัดด้านตะวันออกที่มีการพังถล่มลงมา
โดยความเสียหายเบื้องต้นสำรวจพบว่าเมื่อคืนมีพายุฝนฟ้าคะนองตกหนักมากทำให้น้ำไหลลงไปในชั้นดินซึ่งดินชั้นล่างนั้นหลวมและมีการหักของอิฐที่เก่าแก่ประกอบกับการก่อสร้างศาลาบาตรทำให้เกิดมีการแรงดันด้านข้างเบียดเสียดกันทางกำแพงที่มีอายุเก่าแก่ดินอัดแน่นจนต้องดันตัวเองออกมาด้านข้างเรื่อยๆและรับน้ำหนักมาไม่ไหวเมื่อถูกน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจึงทำให้เกิดกำแพงพังทลายลง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการแตกร้าวบริเวณเสาของศาลาและบริเวณพื้นที่ศาลาเป็นบางจุด ซึ่งสำหรับการบูรณะนั้นเป็นเรื่องที่ทางวัดยางกวงต้องดำเนินการถึงแม้จะขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของกรมศิลปากรก็ตามซึ่งถ้าหากทางวัดร้องขอนั้นทางกรมศิลปากรก็จะมีการศึกษาวิเคราะห์และวางรูปแบบวางแผนระยะยาวอาจมีการเสริมโครงการบูรณะกำแพงที่มีการพังถล่มลงมา ประมาณ 15 เมตรเพื่อให้มันทนทานและพังถล่มลงมาอีก
แต่อย่างไรก็ตามทั้งนี้หลังจากสำรวจแล้วก็จะมีการหารือกับทางวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะดำเนินการบูรณะในรูปแบบไหน รวมไปถึงบริเวณอื่นๆที่เกิดความเสียหายด้วย
ด้านพระครูปลัดสุรเดช สิริสุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดยางกวง เปิดเผยว่า ในส่วนของรถยนต์ของชาวบ้านที่จอดไว้ข้างกำแพงวัดนั้นเบื้องต้นทางวัดจะได้หารือกับคณะกรรมการวัดก่อว่าจะดำเนินการช่วยเหลือเจ้าของในการซ่อมรถ แต่ต้องดูความเสียหายว่ามากน้อยแค่ไหน เบื้องต้นกระจกหน้ารถแตกร้าว ตัวรถได้ถูกกำแพงล้มลงมาทับซึ่งจะให้เจ้าของรถนำรถไปซ่อมซึ่งทางวัดจะดำเนินการช่วยเหลือสังเคราะห์เท่าที่จะทำได้เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น
สำหรับวัดยางกวง เดิมมีชื่อว่าวัดหน่างรั้ว สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยช่วงต้นของราชวงศ์มังราย แต่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง เดิมวัดแห่งนี้ถูกทิ้งร้าง แต่ในปี 2549เจ้าอาวาสวัดดอยสุเทพราชวรวิหาร ได้เข้ามาบูรณะและฟื้นฟู เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี
ร่วมแสดงความคิดเห็น