รองปลัด ทน.เชียงใหม่ ออกชี้แจง เหตุเปลี่ยนถนนรูปแบบใหม่กลางเมือง หลังชาวบ้านและผู้ใช้ถนนต่าง งง เผยเป็นการจำลองการจัดระบบจราจร

วันที่ 9 พ.ค. 64 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ มีเรื่องที่กลายเป็นประเด็นในเมืองเชียงใหม่ หลังจากเทศบาลนครเชียงใหม่ มีการทดลองปรับรูปแบบการเดินรถบนถนนราชดำเนิน ตั้งแต่บริเวณแยกประตูท่าแพ ไปจนถึงหน้าวัดพระสิงห์วรวิหาร ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จากเดิมที่ให้รถวิ่งสวนทาง มาทดลองให้รถวิ่งทางเดียว ทั้งยังมีการตีเส้นแบ่งให้เป็นพื้นที่สำหรับจอดรถยนต์ และจักรยานยนต์ ส่วนพื้นที่ด้านซ้ายสุดชิดขอบทาง เป็นช่องทางสำหรับรถจักรยาน ซึ่งการทดลองการเดินรถทางเดียวรูปแบบใหม่นี้ มีเสียงสะท้อนจากคนเชียงใหม่ ส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย


โดยจากสำรวจ พบว่ามีการตีเส้นจราจรหลายจุดที่ดูไม่เรียบร้อย บางจุดสีจางไม่ชัดเจน และพบว่ามีผู้ใช้รถหลายคันทั้งรถยนต์ และจักรยานยนต์ ต้องชะลอความเร็วเพราะสับสน และไม่คุ้นเคยกับระบบเดินรถ และการแบ่งพื้นที่จอดรถบนถนนที่นำมาใช้ ส่วนช่องทางจักรยานพบว่ามีหลายคัน เริ่มมาใช้เส้นทาง รวมทั้งกลุ่มเซิร์ฟบอร์ด

ขณะที่ต่อมา ทางด้าน นายประสงค์ เรือนสอน รองปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่ ชี้แจงว่า โครงการนี้เป็นโครงการนำร่องพัฒนาย่านเดินได้เดินดี เพื่อยกระดับสุขภาวะคนเมืองเชียงใหม่ “เตียว-หย้อง-เมืองเชียงใหม่” เพื่อจำลองการจัดระบบจราจรที่มีการจัดระเบีบบภูมิทัศน์ ทางเท้า ช่องทางจราจร โดยจะมีการทดลองประมาณ 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ วันที่ 6-31 พฤษภาคม 2564 หลังจากนั้นจะมีการประเมินกระแสตอบรับ


ส่วนการตีเส้นจราจร ไม่ได้ใช้สีมาตรฐาน เนื่องจากเป็นช่วงของการทอดลอง ซึ่งสีพ่นดังกล่าวจะซีดจางลงไปภายในระยะเวลา 2-3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การทดลองเดินรถทางเดียวสิ้นสุดลงแล้ว ไม่ใช่การตีเส้นโดยใช้สี thermoplastic ที่มีความคงทนถาวรเหมือนการตีเส้นถนนโดยทั่วไป การใช้ธรรมดาเพื่อให้สามารภปรับปรุงปรับเปลี่ยนได้ง่ายหากมีการเปลี่ยนแปลง โดยหากผ่านช่วงเวลาทดลอง และทุกฝ่ายเห็นด้วย ก็จะปรับปรุงทุกอย่างให้เป็นมาตรฐานทั้งหมด ยืนยันว่าจะมีการรับฟังทุกภาคส่วน ทั้ง ผู้ประกอบการ ร้านค้า ประชาชน และผู้ใช้รถ โครงการนี้ทำเพื่อประโยชน์ของคนในพื้นที่ และมีการขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562

ร่วมแสดงความคิดเห็น