วันที่ 9 พ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 ในจังหวัดเชียงรายที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยงสีแดงได้รับผลกระทบเรื่องปากท้อง เพราะไม่สามารถออกไปประกอบอาชีพได้ตามปกติ ทำให้มีหน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนเอกชน ต่างลงพื้นที่นำข้าวสารอาหารแห้งมามอบให้กับหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากการปิดหมู่บ้าน หรือถูกกักตัว บางครอบครัวที่พอมีฐานะก็สามารถกักตัว 14 วันโดยไม่ค่อยมีผลกระทบ แต่บางครอบครัวที่มีฐานะยากจน การกักตัวก็ลำบากปากท้อง
ที่ อ.แม่สาย มีกลุ่มวัยรุ่นปันสุขแม่สาย ที่เล็งเห็นปัญหาของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 ต่อการดำรงชีพ จึงควักกระเป๋าตัวเอง ซื้อข้าวสารอาหารแห้ง นำจักรยานยนต์ลากล้อเข็นพ่วงไปแจกจ่าย ให้ชาวบ้านที่มีฐานะยากจน ที่ได้รับผลกระทบ โดยจะตระเวนไปทั่ว อ.แม่สาย จ.เชียงราย
จากการสอบถามนายปริวุฒิ นิลดี หรือ เป้ อายุ 31 ปี เป็นชาว จ.สุโขทัย ได้มาอาศัยอยู่กับภรรยาและลูก ที่บ้านแขก ม.1 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีอาชีพส่งสินค้าไปพม่า และมีฟาร์มหนูพุก นายปริวุฒิ เผยว่า ตนเองได้ทราบข้อมูลว่ามี ชาวบ้านที่มีฐานะยากจนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 ไม่สามารถออกไปทำงานเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ และไม่สามารถออกไปค้าขายได้ตามปกติ
“เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา จึงได้มีแนวคิดควักเงินในกระเป๋า 7,000 บาท ไปซื้อข้าวสารอาหารแห้งแพ็ค นำใส่ล้อเข็นพ่วง ขี่จักรยานยนต์ลากล้อเข็นปันสุข ไปแจกให้ชาวบ้านที่มีฐานะยากจน ที่ได้รับผลกระทบจริงๆ ต่อมาเพื่อนๆที่เห็น ก็ได้เข้าช่วยรวมตัวกันเป็นกลุ่ม และเริ่มมีผู้เห็นชอบแนวทาง จึงได้นำข้าวสารอาหารแห้งมาสมทบ และได้ตั้งชื่อกลุ่ม “วัยรุ่นปันสุข” พากันลากล้อเข็นพ่วงปันสุขไปแจกจ่าย ตามจุดที่ทราบว่ามีชาวบ้านฐานะยากจน ที่ได้รับผลกระทบจริงๆ
นายปริวุฒิ หรือ เป้ กล่าวว่า ตนทำหน้าที่เป็นสะพานบุญ หากมีผู้อยากร่วมทำบุญ ไม่ขอรับเป็นเงิน ขอรับแต่สิ่งของ โดยจะนำไปแจกจ่ายเดือนละ 2 ครั้ง เพราะตนเองและกลุ่มวัยรุ่นปันสุข ต้องป้องกันกักตัวเองทุกครั้ง เมื่อนำสิ่งของไปบริจาค และหากมีผู้ร่วมบริจาคสามารถติดต่อ 098-748-4568 (เป้) เพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ และแบ่งปันรอยยิ้มในห้วงวิกฤตโควิด-19
ร่วมแสดงความคิดเห็น